นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช.ยกเลิกสัญญากับคลินิกชุมชนอบอุ่นใน กทม. ที่มีปัญหาการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ แล้วนั้น สปสช.กำลังเร่งรัดขยายหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลปฐมภูมิและคลินิกเอกชน มารองรับประชาชนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 500 แห่ง ภายในวันที่ 1 พ.ย.2563 และจะเปิดให้ประชาชนมาลงทะเบียนภายใน 2 เดือน โดยหน่วยบริการปฐมภูมิในจะเน้นในลักษณะของเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ ที่มีหน่วยบริการหลากหลายประเภท ทั้งหน่วยบริการปฐมภูมิเต็มเวลา และหน่วยบริการร่วมให้บริการทั้งในและนอกเวลาราชการในรูปแบบของคลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกพยาบาล คลินิกกายภาพ คลินิกแพทย์แผนไทย ร้านขายยา ขย.1 ศูนย์บริการคนพิการ การฟื้นฟูคนพิการ การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค เป็นต้น โดยเน้นเป็นเครือข่ายใกล้บ้าน และสามารถให้บริการในเวลาที่ประชาชนสะดวก เช่น หลังเลิกงาน เป็นต้น สำหรับภาพรวมการใช้บริการของประชาชนสิทธิบัตรทองในหน่วยบริการเอกชนทั้ง 108 แห่ง ที่ถูกยกเลิกสัญญาไปนั้น แบ่งเป็น เคยใช้บริการแบบผู้ป่วยนอก 306,016 คน หรือ 27% ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จำนวน 143,525 คน หรือ 13% ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ สปสช.ดูแลให้ได้รับการรักษาต่อเนื่องแล้ว และล่าสุดไม่มีผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรง หรือเร่งด่วน เช่น ผู้ป่วยไต หรือผู้ติดเชื้อ HIV

“ทั้งนี้ สปสช.ขอย้ำว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกหน่วยบริการในเขต กทม. จะได้รับสิทธิพิเศษ สามารถเข้ารักษาได้ทุกที่ โดยไม่ต้องลงทะเบียน หรือขอใบส่งตัว ขณะเดียวกัน กทม. ยังได้จัดทำเว็บไซต์ให้ประชาชนตรวจสอบว่าตนเองได้รับผลกระทบหรือไม่ ซึ่งขณะนี้มีผู้มาตรวจสอบรายชื่อตนเองแล้ว 3,498 คน” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวและว่า สปสช.ยังได้ทำงานเชิงรุกในการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ชี้แจงประชาชนตามชุมชนต่างๆ เช่น สำนักงานเขตของ กทม. และพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนอาศัยจำนวนมาก เช่น พื้นที่เขตยานนาวาและคลองสามวา เป็นต้น.

...