"หม่อมถนัดแดก" เข้าชี้แจงกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ หลังเจอดราม่า ยันไม่ได้ฉี่ลงน้ำ บอกที่เห็นเป็นฟอง คือน้ำโซดา น้อมรับผิด และขอโทษสังคม
จากกรณีโลกโซเชียล มีการแชร์ภาพของ "หม่อมถนัดแดก" หรือ เสก สหัสวรรษ ชอบชิงชัย เจ้าของเพจเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งยืนหันหลัง ทำท่าคล้ายปัสสาวะลงไปในน้ำ บริเวณแพภูเขาลอย เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ในเขตของอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ซึ่งได้ปักหมุดเช็กอินไว้ พร้อมข้อความว่า "พี่ขอระบาย #เขื่อนแม่งัด #ภูเขาลอยน้ำ #เรือนแพ #MountainFloat" ซึ่งคนในโลกโซเชียล มีการแสดงความคิดเห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่สมควร ไม่ให้เกียรติสถานที่ ก่อนที่ภาพดังกล่าวจะถูกลบออกไปจากเพจ แต่ก็ถูกชาวโซเชียลแคปไว้ได้ทัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น วันที่ 12 ก.ย.63 นายสหัสวรรษ หรือ หม่อมถนัดแดก พร้อมกับบุคคลที่เป็นผู้ถ่ายคลิปและโพสต์ในเพจ ได้เดินทางมายังอุทยานแห่งชาติศรีลานนา บริเวณเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เพื่อชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น
เบื้องต้น หม่อมถนัดแดก ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ได้ยืนปัสสาวะจริง แค่โพสต์ท่าทางว่า กำลังยืนปัสสาวะลงน้ำ แต่จริงๆ ใช้โซดาเทลงไปในน้ำจนเกิดเป็นฟอง ซึ่งในรูปก็เห็นชัดเจนว่า ตนเองไม่ได้ถอดกางเกงแต่อย่างใด หากยืนปัสสาวะจริง ก็ต้องถอดกางเกงออก พร้อมอ้างว่า ที่เดินทางมายังแพเขื่อนแม่งัด เพื่อถ่ายทำคลิปกระชังปลา สำหรับรีวิวทำอาหาร ลงในโซเชียลมีเดีย
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกปากคำของ นายสหัสวรรษ ไว้ พร้อมตักเตือน และแจ้งให้ทราบว่า การถ่ายทำดังกล่าว ไม่สามารถนำไปเผยแพร่ได้ ต้องขออนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติศรีลานนาก่อน เนื่องจากเป็นการถ่ายทำในเชิงพาณิชย์
...
หลังให้ปากคำ นายสหัสวรรษ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนติดต่อขอเข้าพักที่แพภูเขาลอยน้ำ และเดินทางเข้าพักเมื่อวันที่ 11 กันยายน พร้อมกับทีมงาน 9 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งถึงกฎระเบียบ และข้อปฏิบัติให้ทราบแล้ว จากนั้นในเช้าวันที่ 12 กันยายน ก็เช็กเอาต์ออกที่พัก และเดินทางกลับ ซึ่งระหว่างที่เข้าพัก ก็ทำกิจกรรมและเล่นสนุกกับทีมงาน โดยโพสต์ท่าว่ากำลังยืนปัสสาวะ แต่ไม่ได้ยืนปัสสาวะจริง โดยใช้น้ำโซดาเทลงไปทำให้เกิดฟอง
อย่างไรก็ตาม ขอน้อมยอมรับผิด และฝากขอโทษสังคม ที่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดี แต่อยากให้เห็นว่าตนเองไม่ได้ปัสสาวะจริง เพราะในภาพก็ยังไม่ได้ถอดกางเกงออก แต่เมื่อเกิดประเด็นขึ้นแล้ว จึงได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ทันที
โดยหลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ จึงขอฝากไปถึงคนที่ไปเที่ยวในอุทยานฯ ให้ดูตนเองเป็นตัวอย่าง ควรปฏิบัติตามกฎกติกาของสถานที่ และไม่ควรทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในพื้นที่อุทยานฯ แม้จะทำจริงไม่หรือจริง เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าสังคมได้ช่วยสั่งสอนตนเอง.