เพจดังเตือนสติพ่อแม่ อย่าทำลายความฝันลูก แนะทำความเข้าใจความลุ่มหลง ไม่ได้ไร้สาระเสมอไป
แฟนเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ โพสต์ให้ความรู้กรณี คุณพ่อท่านหนึ่งโพสต์ในกลุ่มที่เล่นรถโมเดล อ้างว่า ลูกชายชอบ "รถ" มาก เก็บเงินค่าขนมเพื่อไปซื้อรถ รับจ้างลงสีลงแลกเกอร์โมเดลรถ จนเริ่มละเลยการเรียน โดยเป็นภาพชั้นวางโมเดลรถเกลื่อนกลาดกระจัดกระจายมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งคุกเข่าลงเก็บอยู่
โดยระบุว่า เราทุกคนมีสิ่งที่ชื่นชอบ แต่จะมีกี่คนที่มี "ความลุ่มหลง" หรือ Passion ที่ "ชัด" ที่คอยผลักดันให้เขาลงมือทำซ้ำจนเก่งขึ้น ชำนาญขึ้น ที่สำคัญคือ มีความสุข ทุกครั้งที่ได้ทำ
ในแง่ของจิตวิทยาการพัฒนาตนเอง Passion จึงมีความสำคัญในการเติบโต เพราะความลุ่มหลง เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนจิตใจในด้านบวก เพราะนั่นคือสิ่งที่ลูกชอบและทำได้ดี เมื่อรักและทำได้ ลูกจะมีความมุ่งมั่นจดจ้อง (Focus) และความพยายาม (Effort) ที่จะทำสิ่งนั้นให้ได้ดี แม้ล้มเหลว ผิดพลาด ก็พร้อมที่จะลุกขึ้นและเดินต่อ ทำซ้ำ จนเกิดความชำนาญ (Mastery) ทำได้ดีขึ้น ๆ จนเก่งขึ้น ๆ
แต่ผู้ใหญ่อย่างเราคงรู้ "ความจริง" อย่างหนึ่งว่า สิ่งที่ชอบและรัก ส่วนใหญ่แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้กลายเป็น "อาชีพ" ที่เลี้ยงตัวได้ในอนาคต ดังนั้นหลายครั้งพ่อแม่จึงมองสิ่งที่ลูกลุ่มหลงว่า "ไร้สาระ" และไม่อินไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความลุ่มหลงนั้นกระทบการเรียนในระบบ หลายบ้านถึงขั้นแอนตี้ความลุ่มหลงเหล่านี้ หลายบ้านไม่แอนตี้ระดับธรรมดา พร้อมที่จะห้ามและทำลายสิ่งที่ลูกชอบและลุ่มหลงนั้นลงทันที ซึ่งมันสร้างบาดแผลทางจิตใจให้ลูกไม่มากก็น้อย
...
ในความเป็นจริง ถึงแม้ความลุ่มหลงนั้นทำรายได้ไม่ได้ สุดท้ายสิ่งนั้นจะกลายเป็น งานอดิเรก ที่เขาชื่นชอบ หากวันใดที่ลูกเครียด ไม่สบายใจ และอารมณ์ดิ่งลงด้านลบ งานอดิเรกที่เขาชอบนี่แหละที่จะเป็นสิ่งที่จะช่วยระบายและบำบัดอารมณ์ด้านลบของลูกได้ เป็นที่พัก เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่จะใช้ยืนยันกับตัวเขาเองได้ว่า "เขามีดี" และ "มีคุณค่าพอ" แล้วเขาจะลุกขึ้นไปสู้กับปัญหาต่อไป และใช้ชีวิตต่อได้ อย่าทำลายฝันของลูกในวันที่เพิ่งเริ่มเลย ในกรณีของโพสต์นี้คงต้องแยกเป็น 2 ประเด็น
1. เงินค่าขนม ที่เด็กยอมไม่กิน ไม่ใช้ แล้วเอาไปซื้อของเล่นที่ชอบ นี่คือเรื่องของเด็กครับ ดีเสียอีก เขาเป็นเด็กที่อดออม มุ่งมั่น และทุ่มเท เพราะเมื่อเรา "ให้" ค่าขนมแล้ว เงินนั้นคือกรรมสิทธิ์ของลูกที่จะเอาไปใช้ทำอะไรต่อ ในที่นี้เราคงไปบังคับให้เขาไปซื้อคลีนฟู้ดที่ดีต่อสุขภาพเท่านั้นไม่ได้ นั่นกลายเงินของเขาไปแล้วไง
2. การละเลยการเรียน ไม่มีความรับผิดชอบ อันนี้คนละเรื่อง เพราะหน้าที่ของเด็กคือ "เรียน" อันนี้เรื่องจริง อันนี้เป็นความรับผิดชอบของเขา ต้องรู้ว่าเรียนคือเรียน การบ้านต้องทำ สอบต้องเตรียมตัว แล้วเวลาที่เหลือนั้นเป็นของเขา จะอ่านหรือแสดงความคิดเห็นการเมือง จะพ่นสีโมเดล จะดูมิวสิก Ice Cream ของแบล็กพิงก์และเซเลนา โกเมซ ซ้ำ ๆ พร้อมหัดเต้น หรือจะอ่านหนังสือการ์ตูน นั่นก็เรื่องของเขา แต่พ่อแม่ลูกต้องคุยกันว่าอะไรคือจุดเหมาะสมสำหรับเขา สำหรับเรา คุยกันดี ๆ ได้
ถ้ามัวแต่ทาสีโมเดล จนไม่เรียน ไม่ทำการบ้าน แบบนี้ไม่เวิร์กแล้ว ต้องคุยกันจริง ๆ จัง ๆ เรื่องนี้แล้วว่าการจัดการเวลาที่ดีควรเป็นอย่างไร ลดลงก่อนไหม หยุดก่อนไหม ตอนนี้ ตอนเปิดเทอม ปิดเทอมค่อยเอาเต็มที่เลยลูก จะเรียนเพิ่ม หรือไปทำอะไรเพิ่มเพื่อให้ทำเก่งขึ้นไหม ส่วนคุณพ่อคุณแม่ ลองศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มดูสักหน่อยว่า จริง ๆ แค่ตอนนี้ ลูกยังทำเงินได้เลย แถมมีงานมาให้เขาทำเรื่อย ๆ อีก ลูกเราคงฝีมือไม่ธรรมดานะ มันมีช่องทางอะไรไหมที่จะทำให้พรสวรรค์ของลูกนั้น Shine ส่องประกายได้มากกว่าเดิม ทำบัญชี คิดค่าคุ้มทุน คุย Business Model กับลูกดูไหม ว่าจากแค่นั่งเพ้นต์สีต่อโมเดลตรงนี้แล้วมันไปไหนต่อได้อีก?
แต่ถ้าลูกไปรับงานแล้วผัดผ่อน เบี้ยวนัด หรือโกงเขา อันนี้ควรจัดหนัก เรียนรู้ชีวิตความเป็นจริงว่าทุกการกระทำมีผลของมันเสมอ หากต้องจ่ายเงินค่าเสียหายก็ต้องหักค่าขนม และต้องพักจากกิจกรรมนี้สักพักใหญ่ ๆ ถ้าเป็นลูกตัวเองก็ต้องเอาลงกล่องล็อกกุญแจหยุดกิจกรรมนี้ไปก่อน จนกว่าจะชดใช้คืนให้หมดก่อนเพราะชีวิตก็แบบนี้แหละ ผิดก็ต้องรับผิดชอบ แต่ลูกต้องเข้าใจนะว่า ลูกยังต้องเรียนในขณะเดียวกัน พ่อแม่ก็ต้องเข้าใจว่านอกห้องเรียนก็เรียนได้ผ่านกิจกรรมผ่านสิ่งที่ทำได้ดี สิ่งที่ชอบ สิ่งที่มีพรสวรรค์
(โพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่)
(ข้อมูลจาก แฟนเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ)