แม่กรี๊ดลั่น งูพุ่งจากชักโครกคอนโดฯ กัดก้นลูก 4 ขวบเจ็บกลางดึก เร่งพาส่งโรงพยาบาล เคราะห์ดีเป็นงูเหลือม ไม่มีพิษถึงชีวิต แต่ก็ต้องระวังเชื้อโรค

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Audy Punnada Leung-Aram" ได้โพสต์ข้อความ เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ เมื่อรู้ว่าลูกถูกงูกัด โดยเธอเล่าว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืด ของวันที่ 1 ส.ค.2563 ตนและครอบครัวอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านพระโขนง ตอนนั้นลูกท้องเสีย จึงพามาเข้าห้องน้ำ ซึ่งมีการล้างก้น และกดชักโครกไปแล้ว 2 รอบ แต่ลูกบอกว่ายังปวดท้องอยู่ จึงให้นั่งต่อ

สักพักลูกบอกว่า ไม่อึแล้ว ตนจึงเข้าไปล้างก้นให้ แต่เมื่อส่องในโถส้วมก็เอะใจว่า ไหนบอกไม่อึ แต่มีก้อนยาวๆ อยู่ในชักโครก ตอนนั้นคิดในใจว่าใช่งูหรือเปล่า จากนั้นก็ตัดสินใจอุ้มลูกขึ้นจากโถส้วมทันที แต่เสี้ยววินาทีนั้น งูก็พุ่งตัวออกมาจากส้วม ฉกเข้าที่ก้นของลูก จนตนล้มลงบนพื้นห้องน้ำทั้งที่มืออุ้มลูกอยู่ แต่ก็ไม่พ้น และดึงลูกออกจากฟันของงูที่กัดอยู่

กระทั่งสามีได้ยินเสียงกรี๊ด จึงลุกมาช่วย โดยสิ่งแรกที่ตนทำคือ อุ้มลูกขึ้นบ่า ให้หัวลูกสูงๆ เอากระดาษซับเลือดที่ก้น บีบเลือดออก และคว้ากุญแจรถ บอกสามีว่าจะไปโรงพยาบาลทันที ขณะที่สามีก็ย้อนกลับมาดูว่าเป็นงูอะไร มีพิษหรือไม่ แต่งูหนีกลับเข้าคอห่านไปแล้ว

ตอนที่อยู่ในรถ สามีตนก็ชวนลูกคุยไปตลอดทาง และบอกลูกตรงๆ ว่า "หนูถูกงูกัดนะลูก" และถามลูกตลอดว่ามีอาการ มึนหัวมั้ย จะอ้วกหรือหายใจไม่ออกหรือเปล่า แต่ลูกบอกว่าไม่มีอาการ แต่แสบร้อนบริเวณแผลที่ก้น

เมื่อถึงห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาล หมอล้างแผล และดูรอยกัด พบว่างูที่กัดคือ งูเหลือม ไม่มีพิษถึงชีวิต แต่ก็อาจมีเชื้อโรคอีกหลายอย่างที่ทำให้ป่วยได้ เช่น เลือดออกไม่หยุด แบคทีเรียกินเนื้อ เป็นต้น ซึ่งแพทย์ก็เจาะเลือดไปตรวจ ให้ยาฆ่าเชื้อทางสายน้ำเกลือ และ แอดมิทนอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ ซึ่งตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว

...

ทั้งนี้ สิ่งที่เรียนรู้จากเรื่องนี้ คือ ควรมีแอลกอฮอล์ขวดใหญ่ๆ ติดบ้าน เอาไว้ราดลงคอห่าน หรือราดเข้าปากงู งูจะเกลียด เพราะมันทำให้งูหายใจติดขัด, กลางดึก อย่าเข้าห้องน้ำมืดๆ ให้เปิดไฟตลอด, งูเหลือม งูหลาม ไม่มีพิษ แต่จะกัดแบบไม่ปล่อยเหยื่อ ให้ราดแอลกอฮอล์เข้าปากงู งูจะปล่อยเราทันที, งูไม่มีพิษกัด ก็ต้องรีบไป รพ. เช่นกัน เพราะอาจมีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายมากได้, การเอาเชือกมัดปากแผลที่งูกัด / เอาน้ำแข็งประคบ / เอาปากดูดพิษ คือความเชื่อที่ผิด ควรทำแค่เอาน้ำล้างแผล ถูสบู่ แล้วรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด 

ซึ่งหลังจากที่เกิดเรื่อง ก็ได้คำแนะนำจากคุณหมอ ในการแก้อาการหวาดกลัวหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ เช่น การกลัวโถส้วม ที่จะส่งผลให้ลูกมีปัญหาการขับถ่าย นำมาปรับใช้กับลูก ซึ่งผ่านมา 5 วันแล้ว แต่ลูกยังคงกลัวอยู่ลึกๆ ไม่ยอมนั่งโถเดิมแบบปกติ ก็ต้องยอมให้อึกระโถนไปก่อน เพื่อสุขภาพลำไส้ที่ดี ส่วนที่เหลือ คงต้องใช้เวลาเยียวยา และค่อยๆ ปรับกันไป.

(อ่านโพสต์ฉบับเต็ม ได้ที่นี่)

ที่มาจาก ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Audy Punnada Leung-Aram