ถอดบทเรียนกลุ่ม VIP จากทหารอียิปต์ ลูกสาวอุปทูตซูดาน สู่กรณี "นักการทูตเอสโตเนีย" เตรียมถกแนวทางใหม่ 24 ก.ค.63 ป้องกันการระบาดของโควิด-19


จากกรณีที่ฝ่ายนิติบุคคลของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิทไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ของสถานทูต หรือนักการทูตเข้าพัก หลังจากมีการแจ้งว่าจะมีผู้มากักตัวที่คอนโดมิเนียม 14 วัน แม้ว่าจะมีผลตรวจจากประเทศต้นทาง และสนามบินสุวรรณภูมิแล้วก็ตามนั้น

ล่าสุด วันที่ 17 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวทางการปฏิบัติหลังจากเกิดเหตุการณ์ทหารอียิปต์ที่ระยอง และลูกสาวอุปทูตซูดาน ติดเชื้อโควิด-19 ว่า จะมีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในเรื่องของแนวทางการปฏิบัติ ในวันที่ 24 ก.ค.63

สำหรับแนวทางปฏิบัติระหว่างนี้ ยังคงใช้พื้นฐานเดิม แต่ได้กำหนดมาตรการให้เข้มข้นขึ้น หลังจากเกิดกรณีของลูกสาวนักการทูตซูดาน ได้มีการกำหนดมาตรการให้รอผลการตรวจโควิด-19 ก่อนจึงจะสามารถออกจากสนามบินได้ หลังออกจากสนามบินแล้วจะมีการจัดรถที่มีการแบ่งส่วนระหว่างคนขับกับผู้เดินทาง แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ภายในกฎกติกาเดิม เพื่อรอข้อสรุปแนวแทางกติกาใหม่

นอกจากนี้ในวันนี้ ยังได้มีการพูดคุยโน้มน้าวให้คณะทูตใช้ Alternative State Quarantine (ASQ) หรือโรงแรมที่รัฐบาลจัดให้มากขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการเข้าพัก เป็นความรับผิดชอบของผู้ที่เข้าพัก ยืนยันว่า รัฐบาลไทยไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องค่าใช่จ่ายที่พัก

...

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการอ้างว่า นิติของคอนโดได้ติดต่อไปยัง สบค. แต่ได้รับคำตอบให้ติดต่อไปยังสถานทูตจริงหรือไม่นั้น นายเชิดเกียรติ กล่าวว่า ทางสถานทูตต้นสังกัดได้ติดต่อไปยังนิติบุคคลคอนโดก่อนที่เจ้าหน้าที่การทูตจะเดินทางไปถึง แต่คาดว่าทางคอนโดคงจะปรึกษาหารือกันและเห็นว่าไม่ให้เข้าพัก ทางต้นสังกัดนักการทูตจึงประสานเรื่องนี้มายังกระทรวงการต่างประเทศ และได้จัดให้เข้าพักที่ ASQ ตามคำแนะนำของเรา

และในฐานะของนิติบุคคลสามารถปฏิเสธไม่ให้เข้าพักได้ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ระยองหรือลูกสาวอุปทูตก็ตาม ซึ่งทาง สบค.เองมาทราบหลังจากเกิดเหตุ และได้ประสานมายังกระทรวงการต่างประเทศเช่นกัน ซึ่งเราได้พยายามหาทางออกที่ยอมรับได้ทุกฝ่าย แต่ก็มีความซับซ้อนเล็กน้อยก็คือ ที่นี่คือบ้านของเจ้าหน้าที่การทูตก่อนจะมีการลาพักร้อนไปพักผ่อนในต่างประเทศ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คือการดูแล การป้องกันโรค

ด้าน นายสุชัย อมรดารารัตน์ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งจากทางคอนโด ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปสังเกตการณ์ และทราบว่าทางนักการทูตได้ใช้สิทธิ์ในการเข้าคอนโด แต่ทางคอนโดไม่ยอม จึงมีการเจรจากันอยู่ ตนจึงได้ไปร่วมปรึกษาหารือเพื่อหาทางออก

โดยหลักการแล้ว สิทธิ์ที่จะให้เข้าพักหรือไม่เข้าพักนั้น ส่วนตัวคิดว่าเป็นสิทธิ์ของเอกชน ปกติแล้วสถานที่ที่จะเข้าพักต้องเป็นสถานที่ที่สถานทูตจัดให้ แต่หากคอนโดไม่ได้อยู่ในกรณีนั้นก็จะเป็นอำนาจของคอนโดในการตัดสินใจ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้ประสานงานไปหลายฝ่าย เช่น กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข

ขณะที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังจากเกิดกรณีลูกสาวอุปทูตซูดาน ก็จะมีการหารือแนวทางกันอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำขณะนี้คือได้ขอความร่วมมือกลุ่มที่ได้รับการยกเว้น เช่น นักการทูตและครอบครัว ให้เข้าพักที่สถานทูต แต่ก็ต้องยอมรับว่าในบางสถานทูตอาจจะไม่กว้างใหญ่ จึงมีการใช้คอนโดเป็นที่พัก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้คิดถึงประเด็นนี้จนทำให้มีปัญหาเกิดขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้เข้ากักตัวที่ ASQ.