อาของ "น้องกานต์" แจงหลังโดนกระแสสังคมโจมตี ปัดรีบจัดงานศพเพราะหวังเงินประกัน ยันรักหลานเหมือนลูก เสียงสั่นไม่มีเขาเราก็เหงา
จากกรณี "น้องกานต์" หนูน้อยวัย 6 ขวบ ซึ่งอาศัยอยู่กับอา เนื่องจากพ่อแม่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ได้หายออกจากบ้านพักในพื้นที่ ม.2 บ้านโป่งแรด ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี ร่วม 2 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ระดมกำลังกันค้นหา
ต่อมาเจ้าหน้าที่พบ "น้องกานต์" แล้ว ในสภาพเสียชีวิตอยู่ในป่ายาง ห่างจากบ้านประมาณ 200-300 เมตร ในสภาพเหลือครึ่งตัว ไม่มีแขน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ซึ่งภายหลังมีกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ อาของน้องกานต์ เนื่องจากทราบว่าก่อนเสียชีวิต น้องกานต์ ได้นอนเต็นท์หน้าบ้าน ไม่ได้นอนในบ้าน
ล่าสุด วันที่ 10 ก.ค.63 อาของน้องกานต์ เปิดเผยว่า สังคมมองว่าตนเป็นอาใจร้าย รีบรับศพน้องกานต์มาประกอบพิธีทางศาสนาเพราะอยากได้เงินประกัน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อมาว่า ศพหลานไม่ไหวแล้ว ต้องจัดงานศพก่อน แต่ทางคดียังไม่จบ ซึ่งแพทย์ได้เก็บชิ้นส่วนสำคัญไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งตับ ปอด ส่วนตัวก็ไม่ค่อยมีเงิน แต่ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด อย่างมากก็สวดได้แค่ 2 คืน ฌาปนกิจวันที่ 11 ก.ค.63 พอดีกับทางวัดแจ้งว่าต้องใช้สถานที่จัดงานอื่น ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพทั้งหมดได้ไปกู้เงินมาจากคนที่รู้จัก ทั้งที่ตนก็ไม่มีเงินแต่ตั้งใจจะทำให้หลานชายให้ดีที่สุด
อาของน้องกานต์ เปิดเผยอีกว่า รักน้องกานต์เหมือนลูก อยู่ด้วยกันมา 1 ปีก็ผูกพัน ไม่มีเขามันก็เหงา เพราะปกติเวลาทำกับข้าวเขาจะมาเกาะแกะเรา
ด้านพ่อของน้องกานต์ เปิดเผยว่า ในส่วนเงินประกันชีวิตของโรงเรียนนั้น ได้ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโป่งแรดช่วยดูแลจัดการให้ ส่วนเรื่องกระแสสังคมที่โจมตีน้องชายและน้องสะใภ้นั้น ไม่เชื่อว่าน้องชาย น้องสะใภ้จะฆ่าน้องกานต์เพื่อรับเงินประกัน เพราะตั้งแต่น้องชายรับน้องกานต์มาป็นลูกบุญธรรมก็ดูแลอย่างดี และตนก็รับรู้เรื่องที่ลูกนอนเต็นท์ว่าเป็นความสมัครใจที่อยากออกมานอนเต็นท์
...
ขณะที่แม่ของน้องกานต์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาขอโทษลูกที่ไม่ได้ดูแล ทำให้ลูกต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าชาติหน้ามีจริง หรือชาตินี้ก็ได้ ขอให้หนูมาเกิดเป็นลูกของแม่อีก และขอให้เปิดทางให้เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนที่เหลือ และให้ความจริงปรากฏ.