ป้าแต๋น ขอยืนเคียงข้างลุงพล เชื่อใจสามีไม่มีทางทำร้าย "น้องชมพู่" แน่นอน เพราะรักหลานเหมือนลูก เผยน้อยใจแม่ของหลาน ตอนตำรวจค้นบ้าน ไม่เคยถามสักคำ

จากกรณีการเสียชีวิตของ "น้องชมพู่" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ในพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเดินหน้าสืบสวนสอบสวนหาข้อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านมาเป็นเวลา 57 วันแล้ว ก็ยังหาว่าใครทำให้น้องชมพู่เสียชีวิต

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ป้าแต๋น ภรรยาของลุงพล ซึ่งเป็นญาติของน้องชมพู่ และป้าแต๋นก็เป็นพี่สาวแท้ๆ ของแม่น้องชมพู่ เปิดเผยผ่านรายการ "ไทยรัฐนิวส์โชว์" ไทยรัฐทีวีช่อง 32 ว่า ดูข่าวแล้วก็ตกใจที่แม่น้องชมพู่ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สงสัยลุงพล เพราะมีช่วงเวลา 37 นาที ที่ลุงพลให้การไม่ตรง

พอตนได้ยินแบบนั้นก็ร้องไห้เลย แต่ก็ยังโชคดีที่พ่อกับแม่รู้ข่าวก็เดินมาให้กำลังใจ และเชื่อว่าลุงพลไม่มีทางฆ่าน้องชมพู่แน่นอน ทั้งนี้ตนไม่คิดว่าน้องสาวจะพูดแบบนี้ ทั้งที่สนิทกัน ลุงพลรักน้องชมพู่มาก ที่ผ่านมาป้าแต๋นไม่เคยทะเลาะกับแม่ชมพู่ ไม่เคยทอดทิ้งน้อง

...

ครั้งที่แม่น้องชมพู่ทะเลาะกับญาติพี่น้อง จากปัญหาเรื่องเลี้ยงด้วง ป้าแต๋นยังบอกแม่ชมพู่เลยว่าจะไม่ทอดทิ้ง เพราะเหลือกันสองพี่น้อง เมื่อวานพอเห็นข่าวตัวเองร้องไห้ ส่วนลุงพลตาแดงเหมือนความรู้สึกเจ็บข้างใน แต่เขากลั้นเอาไว้

แม้ ลุงพล จะเป็นคนปากร้าย พูดตรง แต่ไม่เคยทำร้ายลูกเมีย เมื่อรู้ว่าน้องชมพู่หาย พอส่งพระเสร็จก็รีบมาช่วยตามหาและทำทุกอย่าง ทั้งหาหมอธรรม ร่างทรง มาช่วย จนสุดท้ายก็พบศพบนภูเหล็กไฟ ตอนนั้นแม่น้องชมพู่ไม่ให้ขึ้นไปเพราะอันตราย ทีแรกก็คิดว่าเขาอาจเป็นห่วงเรา แต่เห็นว่าในเมื่อเราเป็นญาติก็ควรจะขึ้นไปช่วยตำรวจหาเสื้อน้อง

"ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงสงสัยลุงพล ทั้งที่ลุงพลก็มีศักดิ์เป็นญาติ ตำรวจมาค้นบ้าน แม่น้องชมพู่ก็ไม่เคยมาถาม มาห่วง หรือออกมาปกป้อง เหมือนพ่อน้องชมพู่ ที่ออกมาปกป้องน้องชายตัวเอง ที่ไปเกี่ยวข้องคดียาเสพติด"

ป้าแต๋น บอกอีกว่า ตนยังโชคดีที่ได้กำลังใจจากคนไกลที่ติดตามข่าว แต่กลับไม่เคยได้กำลังใจจากน้องสาวตัวเอง ยอมรับว่าน้อยใจ ที่ผ่านมาเวลาให้สัมภาษณ์กับสื่อ เธอก็ไม่เคยพูดพาดพิงถึงน้องสาว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กังวลใจไหมเรื่องช่วงเวลาของลุงพล ป้าแต๋นก็บอกว่า ไม่กังวล เพราะเรื่องช่วงเวลาจะให้เป๊ะๆ แม่นยำ คงเป็นไปไม่ได้ อาจจะจำผิดคลาดเคลื่อนบ้าง และจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เรื่องช่วงเวลาที่หายของลุงพลเกิดความชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกคนพยายามกันให้ตนเองออกมา เพราะอาจตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ตนเองยืนยันอยู่ข้างลุงพล เพราะเขาไม่ได้ทำ หากสุดท้ายผลออกมาเป็น ลุงพล ก็พร้อมที่จะสู้

ทั้งนี้ ทีมข่าวไทยรัฐทีวี ได้พา ป้าแต๋น ไปที่สวนยางพาราของแม่น้องชมพู่ ที่ ลุงพล ป้าแต๋น และ แม่น้องชมพู่ เดินทางไปวัดจีพีเอส และหยอดน้ำกรดต้นยาง ช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.63 พอวัดจีพีเอสเสร็จ ลุงพล กับ ป้าแต๋น ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ทั้งสองคนจำได้ว่าออกมาจากสวนยาง ตอนเวลา 09.22 น.



โดยการจำลองเหตุการณ์ ทีมข่าวใช้ความเร็ว 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามที่ป้าแต๋นบอก ซึ่งวันนั้นลุงพลใช้ความเร็วประมาณนี้ เพราะเส้นทางเป็นดินแดง ทางค่อนข้างขรุขระ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านท้องนาและสวนยาง ป่ามันสำปะหลัง ของชาวบ้าน ก่อนจะขี่มาถึงซุ้มประตูเข้าวัดภูหลวง และ ถ้ำภูผาแอก จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน ผ่านปากซอยบ้านน้องชมพู่ หน้าบ้านป้าถอน

ป้าแต๋น บอกอีกว่าใช้ความเร็วเท่าเดิมเพราะเป็นพื้นที่ชุมชน จะไม่ขี่เร็วมาก กระทั่งขี่มาถึงหน้าบ้านลุงพล แล้วเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าบ้าน ดับเครื่อง พบว่าใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 8 นาที ทำให้ทราบว่า ลุงพล มาถึงบ้านประมาณ 09.30 น. ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวขับรถออกไปรับพระ