สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับความผิดในข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และการหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนั้น ใช้ข้อความที่คล้ายกัน แต่เจตนารมณ์ในการร่างกฎหมายนั้น แตกต่างกัน
ความผิดในข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 นอกจากผู้กระทำความผิดจะมี “เจตนา” หมิ่นประมาทให้ผู้อื่นเสียหายแล้ว จะต้องมีข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ประกอบความผิดด้วย ดังนี้
1. ใส่ความผู้อื่น
2. ต่อบุคคลที่สาม
3. โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง
เมื่อการกระทำครบองค์ประกอบความผิด ผู้กระทำต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนการหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 531 (2) “ถ้าผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียงหรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง” นั้น ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องครบองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาทเหมือนทางอาญา เพียงแต่ได้ความว่า ผู้รับมีเจตนาดูหมิ่นผู้ให้ก็ถือว่าประพฤติเนรคุณแล้ว ผู้ให้ย่อมมีสิทธิ์ถอนคืนการให้ได้
อ้างอิง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2535
หมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) หาจำเป็นต้องถึงกับเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาททางอาญาไม่เพียงแต่ได้ความว่า เจตนาดูหมิ่นก็ถือว่าประพฤติเนรคุณแล้ว จำเลยซึ่งได้รับการให้ที่ดินจากโจทก์ผู้เป็นบิดาด่าว่าโจทก์ว่า "ไอ้แก่กูไม่นับมึงเป็นพ่อ ออกไปให้พ้น ไม่ไปมึงตายกูไม่รับรู้" เป็นการแสดงเจตนาดูหมิ่นโจทก์เรียกโจทก์ว่าไอ้แก่ ขึ้นมึงขึ้นกูกับโจทก์ว่าไม่นับถือโจทก์เป็นบิดา ขับไล่โจทก์ออกไปให้พ้น มิฉะนั้นโจทก์ตายจำเลยไม่รับรู้ ย่อมทำให้โจทก์อับอายเสียชื่อเสียงและเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณได้
...
ดังนั้น การด่าคนอื่นว่า ไอ้แก่ อีแก่ แม้จะไม่เป็นความผิดในข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 เนื่องจากการกระทำจะต้องครบองค์ประกอบความผิดในทางอาญาด้วย แต่การด่าผู้อื่นด้วยถ้อยคำหยาบคาย อาจจะเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 ได้ และหากเป็นการด่าบุพการีหรือผู้ให้ทรัพย์สิน อาจจะเป็นเหตุถอนคืนการให้ได้ด้วย
ในบางกรณี ผู้รับด่าหรือกล่าวหาผู้ให้ ต่อหน้าบุคคลที่สาม ด้วยเรื่องที่ไม่เป็นความจริง หรือแม้จะเป็นเรื่องจริง แต่ทำให้ผู้ให้ได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง กรณีนี้ผู้รับอาจจะถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา และถูกถอนคืนการให้ได้ด้วย
สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ
Facebook: ทนายเจมส์ LK
Instagram: james.lk