เตือนภัย ยายวัย 80 ปี เจ็บปวดทรมาน เหตุฟันปลอมหลวมหลุดลงไปติดค้างที่หลอดอาหาร หมอต้องใช้เครื่องมือสอดผ่านกล้องคืบดึงออกมาจนปลอดภัย
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์เตือนภัยผ่านเฟซบุ๊ก Arak Wongworachat โดยระบุว่า ฟันปลอมหลวมหลุดออกมากลืนลงไปติดค้างที่หลอดอาหาร อาจเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้หากไปอุดที่หลอดลม
ผู้ป่วยหญิงอายุ 80 ปี ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง ด้วยประวัติว่า ขณะรับประทานอาหารเช้าเสร็จ นั่งพักครึ่งชั่วโมง เอายาโรคประจำตัวมารับประทาน ขณะอ้าปากเงยหน้าขึ้นเพื่อเอายาเข้าปาก ฟันปลอมทั้งปากด้านบนเกิดหล่นลงมา ในจังหวะที่ยาอยู่ในปากแล้ว จึงเผลอกลืนลงไปทั้งยาและฟันปลอม นาทีนั้นรู้สึกเหมือนจุกเค้นที่คอหายใจไม่ออก ต้องพยายามหายใจทางปาก อ้าปากเอาไว้ เอามือล้วงในคอก็ไม่เจออะไร ขากเสมหะก็ไม่ออก เหมือนตนเองจะสิ้นใจ เจ็บในลำคออย่างมาก
ญาติจึงตัดสินใจให้กินน้ำตามลงไปอีกครั้ง พร้อมข้าวปั้น ผู้ป่วยเล่าว่า เหมือนฟันปลอมครูดลงไปจนเจ็บปวดในยอดอกมาก หลังจากนั้นจึงนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน แพทย์เวรได้ใช้เครื่องมืออ้าปากเพื่อใส่ท่อช่วยหายใจส่องดู พบว่ามีบาดแผลรอยช้ำ บวมมากในคอ มีเลือดไหลแต่ไม่เจอฟันปลอม ส่งเอกซเรย์ก็ไม่เห็นภาพทางรังสี เนื่องจากไม่มีโลหะปน คนไข้ปวดทรมาน แต่ยังพอหายใจเองได้ จึงประสานนำส่งโรงพยาบาลสิชล
ให้งดอาหารและน้ำ ให้น้ำเกลือ ยาระงับปวด ให้ออกซิเจน ศัลยแพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดทันที เพื่อส่องกล้องเข้าไปดู วิสัญญีแพทย์เตรียมใส่ท่อช่วยหายใจหากหายใจลำบาก
เมื่อส่องกล้องพบร่องรอยฟันปลอมครูดไปตลอดทาง และไปติดค้างอยู่ตรงตำแหน่งปลายสุดของหลอดอาหาร เป็นแนวขวาง ก่อนลงไปในกระเพาะอาหาร จึงใช้เครื่องมือสอดผ่านกล้องคืบดึงออกมาได้อย่างปลอดภัย หลอดอาหารแม้จะมีแผลแต่ไม่ทะลุ จึงให้น้ำเกลือต่อ งดอาหาร น้ำอีก 3 วัน ให้กลับบ้านได้ จึงขอเตือนให้ระมัดระวังฟันปลอมหลวม แตกหัก ชำรุด ให้รีบไปปรึกษาทันตแพทย์.
...
(โพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่)
(ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat)