ยาย 64 เปิดใจ ถูกหลานจิกหัวตบ ทำร้ายร่างกาย ฉุนถูกห้ามจุดประทัด ซ้ำลูกคนเล็กกลับไม่ห้าม บังคับกราบเท้าขอโทษ ประกาศตัดลูก ตัดหลาน มาขอขมา ก็ไม่อโหสิกรรมให้

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่ง โพสต์คลิป หญิงวัยรุ่นด่าทอและทำร้ายร่างกายหญิงชรา ความยาว 3.52 นาที พร้อมกับเขียนบรรยายว่า เป็นเหตุการณ์ที่หลานทำร้ายยายแท้ๆ ซึ่งเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่ทำร้ายยายขนาดนี้ พร้อมตั้งคำถาม ทำไมคนที่ถ่ายคลิปไม่เข้าไปห้าม

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบนางสมหวัง (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี คุณยาย ที่ถูกหลานสาวทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏในคลิป และนางสงกรานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี บุตรสาวคนโต

โดย นางสมหวัง เล่าว่า ตนเป็นแม่ม่าย มีลูก 3 คน โดยบ้านหลังนี้อยู่กับนางสงกรานต์ ส่วน น.ส.ปลา (นามสมมติ) ลูกสาวคนเล็กสร้างบ้านอยู่ใกล้กัน ซึ่งปกติจะทะเลาะโต้เถียงกับ น.ส.ปลา ตลอด แต่ไม่ถึงทำกับลงมือทำร้ายกัน ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี น.ส.น้ำฝน อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนางสงกรานต์ แต่งงานไปอยู่ จ.นครพนม ก่อนจะย้ายกลับมา แต่ก็ไม่ยอมอยู่กับแม่ ไปอาศัยอยู่กับ น.ส.ปลา ซึ่งเป็นน้า

ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 14 มิถุนายน ขณะที่ตนนอนอยู่ในบ้าน น.ส.น้ำฝน และลูกสาวคนเล็กของ น.ส.ปลา ได้จุดประทัดเสียงดัง ตนก็ออกมาห้าม และถามว่าจุดทำไม เนื่องจากเกรงว่า ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงจุดประทัดจะคิดว่ามีคนตาย เนื่องจากเป็นประเพณีสืบทอดกันมา หากมีคนเสียชีวิตจะมีการจุดประทัด แต่ น.ส.น้ำฝน กลับตะโกนสวนขึ้นมาว่า จุดให้ตน แล้วว่าตนว่าเดือดร้อนอะไร ถ้าตายค่อยเดือดร้อน พร้อมกับด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคายสารพัด โดยมีหลานอีกคนคอยถ่ายคลิป พร้อมส่งเสียงเชียร์ เยาะเย้ย และมี น.ส.ปลา ร่วมด้วย จากนั้นก็มีการลงไม้ลงมือกันเกิดขึ้นตามคลิป 

...

นางสมหวัง เล่าด้วยว่า เล่าต่ออีกว่า ตอนที่ถูกทำร้าย ไม่มีใครกล้าห้าม เพราะกลัวลูกหลง อีกทั้งยังมีลูกเขยยืนกันท่าอยู่ และ น.ส.ปลา ได้ใช้ท่อนไม้ตีตนบริเวณลำตัวและแขนจนเขียวช้ำ ก่อนลูกจะบังคับให้ตนกราบเท้า ตนจึงยอมกราบเท้าลูกต่อหน้าชาวบ้าน และญาติที่มายืนมุงดู จน น.ส.ปลา พอใจ จึงชวนสามีกลับบ้าน และญาติก็พาตนออกมาสงบสติอารมณ์อยู่ที่บ้านน้องชาย ขณะนั่งคุยกันกับน้องสะใภ้ น.ส.ปลา ยังได้ขี่รถจักรยานยนต์มากับสามี ตะโกนเข้ามาถามว่า "คนเก่งอยู่ไหน ทำไมคนเก่งต้องหนีหลบมาอยู่บ้านคนอื่น" หลังจากนั้นน้องชายกลับมาจากทำงาน จึงพาตนไปหาหมอ และนอนย่างไฟรักษาอาการฟกช้ำแบบโบราณ 2 คืน

จากนั้นตนก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับหลานและลูก ที่ร่วมกันทำร้ายร่างตน แต่มาทราบทีหลังว่า หลานสาวก็ไปแจ้งความว่า ตนทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้บาดเจ็บที่แขนเช่นกัน ก่อนที่จะมีคลิป ซึ่งหลานอีกคนถ่ายไว้ แชร์ไปในกลุ่มญาติพี่น้อง กระทั่งน้องสาวของ น.ส.น้ำฝน เห็นคลิป จึงโมโหที่พี่สาวทำร้ายยาย จึงนำคลิปไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก จนมีคนเข้ามาดูและแชร์เป็นจำนวนมาก

"ตนรู้สึกเสียใจมาก รักทั้งลูกและหลาน แต่ทั้งสองมาตบตีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เสียใจมากจนร้องไห้ไม่ออก เพราะน้ำตามันตกลงในข้างใน ถ้าลูกและหลานสำนึกผิดมากราบขอขมา ก็จะไม่รับ ไม่อโหสิกรรม และขอตัดลูกตัดหลานนับตั้งแต่วันนี้ พร้อมกับสั่งลูกชายและลูกสาวไว้ว่า ถ้าแม่ตาย ห้ามลูกสาวคนเล็ก และหลานคนนี้มาเผาผี หรือทำบุญให้เด็ดขาด"

ขณะที่นางสงกรานต์ แม่ของ น.ส.น้ำฝน เผยว่า น.ส.น้ำฝน เป็นลูกคนโตที่เกิดจากสามีเก่า ตนเลี้ยงลูกคนนี้จนเรียนถึงชั้น ม.3 หลังแต่งงานก็ได้ไปอยู่กับสามีที่ จ.นครพนม กระทั่งเดินทางกลับมาเมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ไม่ยอมอยู่กับยายและแม่ เพราะบอกว่าเกลียดสามีใหม่ของตน จึงไปขออาศัยอยู่กับน้า โดยไม่พูดกับตนอีก และมักจะพูดจาเสียดสีตน กับสามีใหม่ตลอด ซึ่งตนก็ทน ไม่โต้ตอบ วันที่เกิดเหตุตนก็ไม่อยู่บ้าน ถ้าอยู่ก็จะเข้าห้าม ไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นเด็ดขาด

"ในฐานะเป็นทั้งลูกและแม่ รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่ตนสอนลูกไม่ได้ ลูกไม่เชื่อฟัง ก็ได้แต่เสียใจ เพราะกลัวว่าลูกจะมีบาปติดตัวที่ทำร้ายยาย" นางสงกรานต์ กล่าว.