กติกาเจ้าเมืองหาลูกเขย ในนิทานล้วนแต่แปลกๆ แต่กติกาในนิทานเรื่อง “ประลองปัญญา” (นิทานไทย ยุทธ เดชคำรณ รวบรวม ยุพเรศ วินัยธร เรียบเรียง สำนักพิมพ์รวมทรรศน์ พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.2536) แปลกกว่า
เดิมพันการเป็นลูกเขย ไม่เพียงได้ธิดาคนงามของเจ้าเมือง ยังแถมเก้าอี้ว่าที่เจ้าเมือง ยั่วใจให้เจ้าชายจากหลายเมืองแห่กันเข้ามาสมัคร
แต่เมื่อเจอกติกา...ขี่ม้าแข่ง...แต่ไม่ได้แข่งความเร็ว แต่แข่งกันที่ใครขี่ม้าช้ากว่า ทำเอาเจ้าชายชักไม่แน่ใจ
แต่ไหนๆมากันแล้ว ก็ไม่มีใครยอมเสียเที่ยว กระโดดขึ้นหลังม้าเรียงหน้ากระดาน...แล้วก็บังคับให้ม้าย่ำเท้าอยู่กับที่ ย่ำ ย่ำ ย่ำ และย่ำ
กองเชียร์ที่แห่กันมาดูแน่นหนา แรกๆ ก็ยังสนุกมีลุ้นๆ บ้าง แต่ดูไปเชียร์ไป ไม่มีม้าตัวไหนล้ำหน้า กองเชียร์ก็ชักเบื่อจากเช้าถึงบ่าย หลายคนไม่เห็นเค้าได้เสียก็ถอดใจ กลับบ้าน
เจ้าชายบนหลังม้าเดิมพันธิดาคนงามของเจ้าเมืองก็อยากได้ ยิ่งเก้าอี้ว่าที่เจ้าเมืองก็ยิ่งอยากได้ แต่โอกาสชนะด้วยกติกาที่ว่าไม่น่ามี คนแรกยอมลงจากหลังม้าคนต่อๆ ไปก็ลงตาม
ถึงเวลาเย็น เหลือคนใจสู้อยู่บนหลังม้าสองคน
คนดูที่เหลือ เจ้าเมือง ธิดาเจ้าเมือง และเจ้าหน้าที่ ก็ยังตั้งใจรอดูต่อไป เกมขี่ม้าช้าจะจบลงยังไง
เจ้าเมืองคนนี้เป็นคนมีปัญญา มองสองเจ้าชาย ที่ยังย่ำม้าอยู่กับที่ด้วยความชื่นชม ความอดทน
แล้วเจ้าเมืองก็กระซิบคนใกล้ตัวให้ทำทีเป็นตาแก่เจ้าปัญญา เข้าไปบอกให้สองผู้แข่งขันให้ใช้กติกาใหม่
เขาบอกอะไร คนนอกไม่รู้ ภาพที่คนดูเห็น สองเจ้าชายต่างก็ลงจากหลังม้า แล้วก็กระโจนขึ้นหลังม้า ควบจี๋ฝุ่นตลบเข้าหาเป้าหมาย
เมื่อถึงคูน้ำกว้างด่านสุดท้าย สองเจ้าชายก็บังคับม้าโผนกระโจนข้าม คนหนึ่งหล่นตกคูน้ำ อีกคนข้ามพ้น
...
ดูผิวเผิน นี่คือเจ้าชายผู้ชนะ...
แต่ช้าก่อน มีคนจำกติกาได้ ตะโกนทัก ก็ไหนคนขี่ม้าช้ากว่าคือผู้ชนะ แล้วเจ้าชายคนที่ขี่ม้าข้ามคูน้ำไปถึงเป้าหมายจะเป็นผู้ชนะได้อย่างไรเล่า
จนเมื่อมีประกาศว่า การขี่ม้าเร็วจี๋ผาดโผนข้ามคูน้ำนั้น เกิดขึ้นหลังสองผู้แข่งขัน เปลี่ยนม้ากันขี่
ม้าที่ตกน้ำเป็นม้าของคนที่ขี่ม้าของคู่แข่งจึงเป็นม้าชนะ ม้าที่กระโจนเข้าหลักชัยจึงเป็นม้าแพ้
ผู้ที่ผ่านด่านการทดสอบทั้งความอดทน การใช้ปัญญา และฝีมือการขี่ม้า...จึงสมควรทุกประการที่จะได้ธิดาเจ้าเมืองและเก้าอี้ว่าที่เจ้าเมืองคนต่อไป
นิทานเรื่องนี้สอนอะไร สอนนักการเมืองรู้ว่า ชัยชนะที่ได้จากจำนวน ส.ส.นั้น เป็นคุณสมบัติแรกก็จริง แต่การจะฝ่าฟันสู่เก้าอี้รัฐมนตรี จะต้องมีความอดทนและการรอจังหวะเวลาที่เหมาะควร
ออกอาการเกินพอดี ชาวบ้านนินทา เสือโหยนี่หว่า! ผู้นำท่านหมั่นไส้ สวรรค์ก็ล่มได้นา พ่อเจ้าประคุณ.
กิเลน ประลองเชิง