ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี คุมตัวหนุ่มแว้นไลฟ์สดขู่ฆ่า ด่าตำรวจ ลงเฟซบุ๊ก ด้านตำรวจบอกทำตามกฎระเบียบถูกต้อง จ่อแจ้งข้อหามือไลฟ์สด ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ทำให้ตำรวจได้รับความเสียหาย
จากกรณีตำรวจภาค 1 ได้รับหนังสือร้องเรียนว่า มีกลุ่มเด็กแว้นก่อความเดือดร้อนรำคาญในช่วงค่ำคืน ที่บริเวณช่วงถนนสายสะพาน 8 บายพาส โดย พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี จึงได้สั่งการให้ ตำรวจจราจร สภ.เมืองลพบุรี ตั้งด่านตรวจผู้ใช้รถบนถนนเส้นทางดังกล่าว แต่กลุ่มแว้นไหวตัวทันหลบหนีไปได้แทบทุกครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวนจึงได้ทำการวางแผนในการจับกุม โดยสามารถจับกุมกลุ่มเด็กแว้นได้จำนวน 2 คัน จึงได้นำตัวมาเพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี แจ้งข้อกล่าวหา เพื่อทำการปรับและยึดรถไว้เพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากไม่มีเอกสารในการครอบครองรถ ไม่เสียภาษี ไม่มี พ.ร.บ. และท่อไอเสียเสียงดัง ก่อนปล่อยตัวไปรอเรียกให้ไปพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง
หลังจากนั้นช่วงสาย นายวุฒิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ได้ไลฟ์สดบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยคำหยาบคายนานนับชั่วโมง อีกทั้งยังขู่ฆ่าเจ้าหน้าที่ว่า "เจอที่ไหน จะชนให้พิการเลย กระโดดออกจากมุมมืด ระวังตัวให้ดี หลังสิงหาเจอกัน หมดคดีก่อน" และยังระบุอีกว่า โดนจับแล้วก็ทิ้งให้ต้องเดินกลับนับ 10 กิโลเมตร พร้อมภรรยาเพื่อนที่ตั้งครรภ์อีกคน
...
ล่าสุด ตำรวจงานสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นคลิปไลฟ์สดดังกล่าวแล้ว และเห็นว่าเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในเรื่องนี้ก็ยอมไม่ได้ จะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ไลฟ์สดรายนี้ จึงได้ไปนำตัวพร้อมด้วยกลุ่มแว้นอีกราย และหญิงสาวที่นายวุฒิชัยอ้างว่าตั้งครรภ์ มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม
โดย นางสาวดาว (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้นั่งซ้อนท้ายรถกลุ่มแว้นกล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งครรภ์ หลังถูกจับกุมก็เดินกลับไม่เกิน 1 กิโลเมตร ที่นายวุฒิชัยกล่าวอ้างก็ไม่เป็นความจริง
นายวุฒิชัย กล่าวว่า ตนไม่มีเจตนา โมโหจึงได้ไลฟ์สดระบายอารมณ์ และได้ยกมือขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พร้อมยืนยันจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวนได้ปล่อยตัวไป เพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เรียกตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจจราจร ตำรวจสายตรวจ ตำรวจงานสืบสวน ถูกจับผิดการทำงานของตำรวจมามาก แต่ไม่มีใครว่าอะไร มาในครั้งนี้เห็นว่าเป็นการกระทำที่เกินขอบเขต ด้วยถ้อยคำถากถางว่า ตำรวจประพฤติมิชอบ ขู่ฆ่าเจ้าพนักงาน ดูหมิ่นเจ้าพนักงานให้ประชาชนเกิดความเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียงของตำรวจ จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง.