นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงได้ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลบิ๊กดาต้า เพื่อนำมาเชื่อมโยงกับระบบ Cloud หรือ Cloud Computing (คลาวด์) ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับการทำงานของผู้ใช้งานในทุกๆด้าน ทั้งด้านระบบเครือข่าย ด้านการจัดเก็บข้อมูล ด้านการติดตั้งฐานข้อมูลของรัฐบาล เพื่อให้การประสานงานและการเชื่อมโยงข้อมูลการบริหารงานด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะนำรูปแบบการบริหารจัดการเรื่อง School Management System ของภาคเอกชนเข้ามาช่วยบริหารจัดการข้อมูลของ ศธ. เนื่องจากที่ผ่านมาแม้เราจะมีการจัดทำฐานข้อมูลไว้แล้ว แต่เป็นเพียงข้อมูลดิบที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบการทำงานระบบ School Management System นั้น ตนได้เห็นการนำเสนอจากภาคเอกชนแล้วพบว่า ระบบนี้มีความทันสมัย สามารถจัดเก็บข้อมูลครอบคลุมทุกด้าน มีการวัดค่าของข้อมูลด้วยว่าเราจะนำไปใช้กับอะไรได้มากที่สุด เช่น การวัดส่วนสูง เมื่อวัดแล้วจะนำไปทำอะไรต่อไปได้ เป็นต้น ซึ่งระบบดังกล่าวจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อการศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนขยายโอกาสว่า เราควรจะขยายโรงเรียนเท่าที่จำเป็นได้หรือไม่ ไม่ใช่เป็นการขยายโรงเรียนเพื่อความสะดวกแต่เด็กไม่ได้รับการเติมเต็มเรื่องคุณภาพเท่าที่ควร อีกทั้งยังช่วยตรวจจับเงินอุดหนุนรายหัวเด็กที่โรงเรียนบางแห่งมีนักเรียนซ้ำซ้อนหรือเด็กผีได้ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลนักเรียนซ้ำซ้อน แต่หากพบว่าโรงเรียนปล่อยให้มีเรื่องนี้ตนจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากที่ประชุม ครม.ยังขอให้กระทรวงทุกแห่งได้แก้ไขปัญหาในอดีตที่คั่งค้างมาปรับปรุงแก้ไขให้เป็นปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยในส่วนของ ศธ. ตนได้เข้ามาปรับปรุงแก้ไขหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู การปรับปรุงการเลื่อนและขอมีวิทยฐานะ และการอบรมพัฒนาครู ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล เราจะพยายามผลักดันแก้ไขงานที่เป็นปัญหาให้เกิดประโยชน์ต่อครูและผู้เรียนมากที่สุด.

...