ตาเลี้ยงสุดโหดเหี้ยมฆ่า ด.ช.วัย 11 ปีหมกพงหญ้า คาดแค้นเมียที่รักหลานมากกว่า ขณะที่แม่เด็กคาดไม่ถึงว่าจะทำ เพราะเคยเลี้ยงดูอุ้มชูกันมาตั้งแต่เล็กๆ

จากเด็กชายวัย 11 ปี ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใบหน้า และท้ายทอย นอกจากนี้ที่บริเวณใบหน้ายังปูดบวม เขียวช้ำ ใกล้กันพบมีดหวด มีด้ามจับเป็นเหล็กตกอยู่ โดยผู้ก่อเหตุคือ นายวัน อายุ 49 ปี สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นตาเลี้ยงของเด็ก เหตุเกิดภายในป่าหญ้า ตอไม้แดง ม.2 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 63 นางสาวมัลติกา (ขอสงวนนามสกุล) แม่ของเด็กชาย กล่าวว่า ปกติแล้วนายวัน อยู่กับนางลำไย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นแม่ของตนมาเกือบ 20 ปี ตอนที่ลูกชายตนยังเด็กๆ นายวัน ก็เป็นคนค่อยเลี้ยงมา พาขี่คอวิ่งเล่นในไร่มัน จนกระทั่งเมื่อช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา นายวัน มีพฤติกรรมดื่มสุราอย่างหนัก และขอเงินแม่ตนเองอยู่เป็นประจำ และลงมือทำร้ายร่างกายแม่

...

ทั้งนี้ ตนทนเห็นแม่บาดเจ็บไม่ได้ จึงให้แม่แยกทางกับนายวัน จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ นายวัน ได้มาตามข่มขู่ฆ่าลูกตนเอง เพราะลูกตนจะติดยาย เวลาจะไปไหนมาไหน ก็จะอยู่กับยาย เวลานอนก็ชอบไปนอนกับยาย ซึ่งหลานกับยายจะอยู่ด้วยกันตลอด


นางลำไย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมานายวัน ติดเหล้าอย่างหนัก พอไม่มีเงินให้ไปซื้อกิน จะลงมือทำร้ายร่างกายตนจนศีรษะแตก ต้องเย็บ 3 เข็ม แม้จะเลิกรากัน แต่นายวันก็ยังมาตามง้อขอคืนดี ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังทำไร่มันอยู่ ส่วนหลานก็อาศัยอยู่ในบ้านพักคนเดียว

โดยคาดว่าในระหว่างที่หลานกำลังเดินถือลูกบอลจากบ้านมาหาตนที่ไร่มัน ซึ่งคาดว่า นายวัน คงมาเจอในระหว่างเส้นทาง จนกระทั่งลากตัวไปลงมือก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการนำตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่เพื่อนบ้าน กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนเห็นนายวัน เดินถือขวดน้ำออกมาที่ปากซอย เพื่อที่จะเดินไปกรอกน้ำ ซึ่งปกตินายวันเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร และคาดไม่ถึงว่านายวันจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะเนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ตนเองอยู่มา ก็เห็นนายวันเลี้ยงหลานคนตายมาตลอด ทั้งนี้ถือว่าสะเทือนใจเป็นอย่างมาก กับเหตุการณ์ในครั้งนี้

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้าย หรือ ปิดบังการตาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง ทั้งนี้ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี คาดว่ายังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว