ลดปัญหาเวชภัณฑ์-ช่วย รพ.รับมือ “วชิรพยาบาล” โชว์ 4 นวัตกรรม
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหาร อว.เกลี่ยงบประมาณภายใน อว.จำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเวชภัณฑ์และการเตรียมพร้อมของโรงพยาบาลในการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย โดยขณะนี้ เกลี่ยได้มาแล้ว 2,000 ล้านบาท จากหน่วยงานภายใน อว.และจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อีกจำนวน 1,000 ล้านบาทเพื่อปลดล็อกปัญหาด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลของที่ไม่เพียงพอพร้อมทั้งสั่งการให้มีการจัดตั้งคณะทำงานรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งจะรวบรวมนวัตกรรมทั้งหมดของ อว.และเชื่อมโยงการทำงานในรูปแบบจตุรภาคี ระหว่างคณะแพทยศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาคเอกชน/อุตสาหกรรมและ อว.ในการพัฒนาและผลิตด้านเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ หน้ากาก N95 ชุด PPE ห้องควบคุมความดันลบ โรงพยาบาลสนาม/เปลขนย้ายและเครื่องช่วยหายใจ
ผศ.อนุแสง จิตสมเกษม รองคณบดี คณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล ม.นวมินทราธิราช เปิดเผยว่า หน่วยงานวิจัยของคณะแพทย์ศาสตร์วิชรพยาบาล มีนวัตกรรม 4 ตัวที่มีการผลิตออกมาใช้แล้ว ประกอบด้วย นวัตกรรมแรก คือ เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแรงดันลบ ผลิตออกมาแล้ว 11 ตัว ใช้ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล 2 ตัว และแจกจ่ายให้โรงพยาบาลอื่นราคาประมาณ 1 แสนกว่าบาท พร้อมทั้งเตรียมการต่อยอดนำนวัตกรรมโดยได้ประสานบริษัท ปตท. และฮอนด้า ในการนำต้นแบบไปผลิตต่อ นวัตกรรมที่ 2 หมวกปรับแรงดันบวกสำหรับใช้ในห้องผ่าตัดที่ใช้สวมใส่เพื่อการต่อท่อหายใจให้กับคนไข้ติดเชื้อรุนแรง ซึ่งต้องซื้อจากต่างประเทศ ราคาราว 5 หมื่นบาท แต่คณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล ผลิตได้ด้วยงบประมาณเพียง 2 พันบาท ในเบื้องต้นผลิตได้ 300-500 ตัว โดยมีความต้องการใช้อยู่ในราว 1,000 ตัว หากร่วมมือผลิตจะใช้เวลาเพียง 1 เดือนจะเพียงพอต่อความต้องการ
...
“นวัตกรรมที่ 3 หน้ากากอนามัยไส้กรอง N99 มีกำลังการผลิตราว 200 ชิ้นต่อวัน คาดว่าภายในเวลา 1 สัปดาห์ผลิตได้เพียงพอ ต่อการส่งมอบให้ กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะกับโรงพยาบาลขนาดเล็กที่ยังขาดแคลน และนวัตกรรมที่ 4 ชุดป้องกันส่วนบุคคล PPE ได้รับการทดสอบจากสถาบันบำราศนราดูรว่าใช้ได้ไม่ต่างจากชุดป้องกันเกรด 5 โดยมีต้นทุนชุดละกว่า 100 บาท ทั้งนี้ คณะแพทย์ศาสตร์วชิรพยาบาล ได้รับความร่วมมือกับผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรายใหญ่ของเมืองไทย สนับสนุนวัสดุในการผลิตคาดว่าจะผลิตเบื้องต้นได้ 500-2,000 ตัว โดยมีความต้องการอยู่ราวแสนตัว” ผศ.อนุแสงกล่าว.