"บอย ศรสุวีร์" เปิดใจ หลังพบตำรวจ ผมแค่นายหน้า ไม่เคยเห็นหน้ากากอนามัยล้านชิ้น ถ่ายคลิปแค่สร้างความเชื่อมั่นลูกค้า ยันไม่เคยรู้จักรัฐมนตรี 

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 มี.ค. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 นำตัว นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศมี อายุ 47 ปี หนุ่มโพสต์โชว์หน้ากากอนามัยเต็มโกดัง โดยเป็นการเชิญตัวมาให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.สอบปากคำ ที่สำนักงาน ชั้น 4

จากการสอบถาม นายศรสุวีร์ ถึงภาพที่ปรากฏในคลิป มีที่มาอย่างไร นายศรสุวีร์ ระบุว่า ส่วนใหญ่ก๊อบปี้มา เพราะตัวเองเป็นนายหน้า ของจริงๆ ไม่มี ตนแค่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่จะมาซื้อของ สุดท้ายตนก็จะบอกว่า มันไม่มีของ ส่วนที่ถือสินค้า ตรงนั้นเป็นโรงงานเปิด ซึ่งเปิดถูกต้องตามกฎหมาย และมีกำลังการผลิตแต่น้อย ซึ่งตนก็เข้าไปดูตามโลเคชั่น 

นายศรสุวีร์ อ้างว่า ที่ทำไปแบบนั้น ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องขอโทษด้วย เมื่อถามว่าง่ายเกินไปหรือไม่ นายศรสุวีร์ อ้างว่า คลิปเหล่านั้นเป็นคลิปเก่า ตั้งแต่หน้ากากอนามัยยังไม่ขาดแคลน 

เมื่อถามว่า เคยขายหน้ากากอนามัยได้หรือไม่ นายศรสุวีร์ ระบุว่า ได้เล็กๆ น้อยๆ สินค้าบางส่วนไม่มีคุณภาพ ก็ถูกตีกลับมา เราก็อาจจะไม่ได้เลย 

ต่อข้อถาม ขณะนี้ยังสามารถจัดหาหน้ากากอนามัยได้อีกหรือไม่ นายศรสุวีร์ ระบุว่า ด้วยอาชีพตน หากใครเข้ามาถามก็จะบอกว่าได้ แต่จะหาให้ได้หรือเปล่า ตนก็ต้องพยายาม 

เมื่อถามถึงการอ้างว่า รู้จักกับรัฐมนตรี นายศรสุวีร์ ยืนยันว่า ตนไม่รู้จัก ตนไปเจอแล้วขอถ่ายรูป ไปเจอแล้วคุยกันด้วยอัธยาศัยดี เป็นพี่เป็นน้อง ด้วยอายุมากกว่า ก็ให้เกียรติกัน ไม่ได้มีอะไร ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่เคยเห็นหน้ารัฐมนตรี ส่วนผู้ช่วย วันนั้นตนเข้าไปหาเพื่อน แล้วเค้าอยู่ตรงนั้น จึงเข้าไปทักทาย เมื่อถามว่า มีการเจรจาซื้อขายกันหรือไม่ นายศรสุวีร์ อ้างว่า เป็นการคุยเล่นในวงเหล้า ประมาณว่า พี่มีหรือเปล่า ถ้ามีให้บอกน้อง แต่ไม่มีการซื้อขาย

...

นอกจากนี้ นายศรสุวีร์ ยืนยันด้วยว่า ตนไม่เคยขายสินค้าลอตใหญ่ เพราะมันไม่มี ในภาวะปกติก็ไม่สามารถหาหน้ากากเป็นล้านชิ้นได้ ไปถามนายหน้าได้เลย ตนไม่เคยเห็นใครมี 

เมื่อถามถึงเจตนาไลฟ์สด นายศรสุวีร์ ระบุว่า เพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า แต่ไม่มีเจตนาจะหลอก แค่หาได้เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และไม่เคยติดต่อซื้อขายกับประเทศจีน นายหน้าทุกคนก็ทำแบบนี้ ซึ่งตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆ 

นายศรสุวีร์ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่า ไม่มี ไม่เคยเห็นสินค้า ตนเป็นเพียงนายหน้าคนนึง ที่หาเงินเลี้ยงครอบครัว ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ตนเคยเป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่พัทยา ต้องหาเงินผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ส่งลูกเรียน ต้องหาเงิน และไม่รู้ว่าจะทำอะไรแล้ว ก็เลยมาเป็นนายหน้า ตนไม่ใช่ 18 มงกุฎ ที่เขียนว่า หน้ากากอนามัย 14 บาท ก็เขียนไปอย่างนั้น ไม่ได้มีอะไรมากมาย ไม่รู้ว่าจะตั้งราคาเท่าไหร่ ถ้ามีคนสั่งซื้อ ก็แค่บอกว่า มันไม่มีของ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีการเอาตนไปโยงกับผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งที่ตนไม่เคยรู้จัก การโพสต์รูปก็โพสต์กันคนละเวลาไม่เกี่ยวกันเลย แต่ถูกโยงให้มาเกี่ยวกัน จึงขอกราบขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน

ซึ่งในบางช่วงของการแถลงนั้น นายศรสุวีร์ ได้บอกกับนักข่าวที่ไล่ต้อนว่า ขอให้ถามซอฟต์ๆ หน่อย และอยากให้เปลี่ยนบางคำถาม เพราะตั้งคำถามกดดันมาก เพราะตนไม่มีอะไรจริงๆ ให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้ ตนไม่เคยเห็นสินค้าแบบนี้เลย ถ้าหาของได้ ก็ไปหาให้ เพราะอยากได้ค่านายหน้า

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากที่มีข่าวในโลกโซเชียลและมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อต้องการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ได้ข้อเท็จจริง ถูกต้อง และต้องรวดเร็วที่สุด แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นทางนายศรสุวีร์ ได้ประสานผ่านมาทาง พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 เพื่อขอเข้าพบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งการกระทำของนายศรสุวีร์ จะผิดจะถูกอย่างไร จากนี้จะมีการดำเนินไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ในชั้นต้นอยากให้พี่น้องประชาชนได้ฟังจากปากนายศรสุวีร์ ว่ามีข้อชี้แจงอย่างไร

ส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่หลังจากนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ยังไม่เข้าสู่กระบวนการสอบสวนใดๆ เป็นเรื่องที่นายศรสุวีร์ สมัครใจให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน

ส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่มีการขออนุมัติหมายค้นไป 6 จุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการยังบอกไม่ได้ว่าพบอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหานายศรสุวีร์ ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์