รับผิดชอบร่วมกัน...
ว่ากันด้วยเรื่องไวรัสโควิด-19 ที่ทำท่าว่าจะแพร่ระบาดไปเกือบทั่วโลก พูดง่ายๆว่าเป็นไปอย่างที่ผู้ชำนาญการต่างคาดการณ์ถึงความเป็นไปของสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
นั่นเป็นเรื่องของการระบาดที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าจีนจะควบคุมได้ระดับหนึ่งทำให้จำนวนการแพร่ระบาดลดน้อยลงเป็นลำดับ แต่ไม่ได้หมายความว่าหยุดที่ต้นตอได้ น่าจะทำให้โควิด-19 ลดการแพร่ระบาดเร็วขึ้น
แต่ไม่ใช่อย่างนั้นเสียแล้ว เพราะการเคลื่อนตัวของเชื้อไวรัสต่างไป แรกๆก็มาจากผู้คนซึ่งอยู่ในพื้นที่เดินทางไปยังประเทศอื่นๆ จนทำให้คนอีกพื้นที่หนึ่งติดเชื้อ
ปัจจุบันคนในพื้นที่นั้นติดต่อกันเองอย่างหลายประเทศที่เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเอเชียด้วยกันคือญี่ปุ่น เกาหลีใต้เป็นต้น
แต่อีกหลายประเทศทั้งในยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ เจอเข้าไปอีกหลายประเทศ
“อิตาลี” หนักที่สุดถึงกับต้องปิดเมือง
ดีอยู่อย่างที่ประเทศมีการเตรียมพร้อมรับมือได้ดีเลยแหละ...จนยังไม่ต้องประกาศมาตรการในระยะที่ 3
เพียงแต่แจ้งให้ประชาชนได้ทราบว่าไวรัสตัวนี้ “อันตราย” เท่ากับว่าได้มีการเตรียมการรับมือล่วงหน้าไว้แล้ว และเตือนให้ประชาชนตื่นตัวรับรู้ถึงความเป็นไป
พร้อมสอดรับกับมาตรการทางกฎหมายเพื่อดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดที่ขัดต่อกติกาตามที่กำหนดไว้
กรณี “ปกปิดข้อมูล” ไม่บอกความจริงต่อแพทย์ว่าไปไหนมา ประเทศไหน ประเทศนั้นมีการแพร่กระจายของโควิด-19 มากน้อยแค่ไหน
อย่างกรณีของประเทศไทยที่มีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น เมื่อสามี-ภรรยาคู่หนึ่งเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ที่ล่าสุดมีการเตือนว่าอย่าเดินทางไปที่นั่น
...
ปรากฏว่า คนไทย 2 คนนี้มีอาการแต่ยังไม่แน่ใจว่าติดเชื้อหรือไม่ คิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาจึงเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
แพทย์ได้สอบถามเพื่อหาข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะการเดินทางกลับมาจากประเทศไหน แต่กลับปกปิดข้อมูล ซักไซ้จนได้ความว่าไปโอซากามา
ก็เป็นเรื่องขึ้นมาเมื่อพบว่าผัว-เมียคู่นี้ และหลานชายอีก 1 คน ติดเชื้อไวรัส มันก็เลยยุ่งขึ้นมาทันที จนต้องรีบนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งมีความสามารถชำนาญการในเรื่องนี้
โรงพยาบาลที่รับตัวผู้ป่วยเบื้องต้นต้องสั่งปิดทันที เจ้าหน้าที่ต้องหยุดงานไปรอเวลาฟักตัวเพื่อให้เกิดความแน่ใจ
โรงเรียนที่หลานชายเรียนก็ต้องปิดไปด้วย
รวมไปถึงผู้โดยสารที่เดินทางมาพร้อมกันก็ต้องหาตัวเพื่อนำมาตรวจอาการ ถ้ายังไม่พบก็ต้องกักตัวก่อน 14 วัน ให้ปลอดภัยไว้ก่อน
ที่สำคัญยังไม่รู้ว่าจะแพร่ระบาดต่อไปอีกหรือไม่?
ยิ่งล่าสุดมีข้อมูลที่ระบุว่าพัฒนาการของโควิด-19 นั้นอาจจะหยุดยั้งได้ในระยะเวลาไม่นาน แต่ข้อมูลใหม่ชี้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี
จะระบาดไปทั่วโลก และมีความรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนมาก
นี่แหละเป็นเรื่องที่ทุกฝ่าย ทุกคน จะต้องตระหนักและมีความรับผิดชอบร่วมกัน โดยเฉพาะข้อมูลเบื้องต้นห้ามปกปิดอย่างเด็ดขาด
“โควิด-19”...เป็นปัญหาใหญ่และสำคัญมากสุดในสถานการณ์ปัจจุบัน
หนักกว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ที่นักการเมืองไม่ค่อยตระหนัก.
“สายล่อฟ้า”