ตำรวจสอบปากคำ สาวขับแจ๊สขาว เปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำรถบรรทุกที่ตามหลังมา ต้องหักหลบจนพลิกคว่ำ คนงานตาย 1 เจ็บ 4 ก่อนแจ้ง 3 ข้อหา เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างไม่เห็นรถที่ตามหลังมา
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "อมรเทพ ขุนราษฎร์" ได้แชร์คลิป ตามหาคนขับรถแจ๊สสีขาว ทะเบียน ขค 8622 สงขลา ซึ่งในคลิปพบว่า รถคันดังกล่าวขับอยู่เลนขวา ก่อนที่จะเบี่ยงเลนกะทันหัน ทำให้รถบรรทุก 6 ล้อที่ขับตามหลังมาหักหลบจนเสียหลักพลิกคว่ำบริเวณเกาะกลางถนน ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 4 คน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยหลังจากเกิดเหตุคนขับรถแจ๊สไม่จอดรถลงมาดูผู้บาดเจ็บ พร้อมกับขับไปทันที
จากการสอบถาม พ.ต.ท.สุเทพ ฉุ้นประดับ สารวัตรเวร สภ.บางกล่ำ ระบุว่า ได้เรียก น.ส.อังคณา แก้วบริสุทธิ์ อายุ 30 ปี คนขับรถแจ๊สสีขาว มารับทราบข้อหาแล้ว โดย น.ส.อังคณา ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนแจ้ง 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย บาดเจ็บสาหัส, ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ อันตรายแก่กาย และทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย, หลบหนีไปโดยไม่ได้หยุดรถให้ความช่วยเหลือตามสมควร ไม่ได้แสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียง
ด้าน น.ส.อังคณา ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่า ตนเองไม่เห็นรถคันหลังที่วิ่งตามมา
ทั้งนี้ในส่วนของรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้โดยสารนั่งมาทั้งหมด 16 คน รวมคนขับ โดยนั่งตอนหน้า 3 คน และท้ายกระบะ 13 คน โดยศพของผู้เสียชีวิตได้มีการฌาปนกิจไปแล้ว ที่วัดคลองเปล เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (25 ก.พ.)
...
ด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุค่อนข้างชุลมุนมาก พอรู้ว่ามีอุบัติเหตุ ตนก็รีบเข้าไปช่วยคนเจ็บ โทรเรียกรถพยาบาล ซึ่งตนเห็นรถแจ๊สคันดังกล่าว แต่ไม่ทันเห็นว่าเป็นรถของใคร
ขณะที่ นายบุญสิงห์ หม่อมท่า อายุ 42 ปี คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ เผยว่า ตนขับรถมาเลนกลางปกติ แล้วมีรถด้านหน้าซึ่งอยู่เลนขวา ก่อนที่รถจะเปลี่ยนเลนแบบไม่ทันตั้งตัว ตนจึงเบรกฉุกเฉิน ทำให้รถหมุน ซึ่งสภาพถนนวันนั้นฝนเพิ่งหยุดตกด้วย ซึ่งเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้เจอกับคู่กรณี แต่ไม่ได้คุยอะไรกัน
นายไชยันต์ สายทองแก้ว อายุ 38 ปี หัวหน้าคนงานก่อสร้าง ระบุว่า ตนต้องดูแลคนเจ็บ 4 ราย เป็นอันดับแรก ซึ่งแพทย์ให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ แต่ต้องใช้เวลา 2-3 เดือน โดยมีทั้งบาดเจ็บ กระดูกไหปลาร้าหัก กระดูกซี่โครงหัก แตกต่างกันไป ส่วนผู้เสียชีวิตได้ติดต่อให้ภรรยาทราบ ซึ่งผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว มีลูก 3 คน คนเล็กอายุประมาณ 8 เดือน จึงอยากให้มาแสดงความรับผิดชอบ จากนี้ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย.
ที่มาจาก เฟซบุ๊ก อมรเทพ ขุนราษฎร์