ตามล่า หนุ่มหื่น ทั้งอุดรธานี หลังหลอกล่อ ด.ญ.วัย 12 จะสอนถักผมเปีย จะซื้อขนมมาให้ พยายามอนาจารเด็ก ขณะที่ 2 พี่น้องกำลังนั่งดูการ์ตูนภายในบ้าน

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 63 ร.ต.ท.อนุสรณ์ ปินใจ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายพยายามลวนลาม และอนาจารเด็กหญิงภายในบ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.บ้านเลื่อม จึงนำกำลังไปตรวจสอบ

นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 48 ปี แม่ของเด็กหญิงเอ อายุ 12 ปี และเด็กหญิงบี อายุ 10 ปี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.00 น. ตนได้ขี่จักรยานยนต์ไปส่งสามีที่ บขส.แห่งที่ 1 เพื่อเดินทางไปรับลูกชายคนโตที่สุราษฎร์ธานี

ระหว่างตนได้แวะซื้อกับข้าวที่ตลาด กลับมาถึงบ้านพักเวลาประมาณ 11.00 น. พบน้องบีนอนดูทีวีอยู่ชั้นล่างตามปกติ แต่น้องเอ นั่งร้องไห้บนชั้นสองของบ้าน โดยลูกบอกว่าระหว่างที่นั่งดูการ์ตูนอยู่ มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเรื่องห้องเช่า

โดยน้องเอก็ตอบว่าไม่รู้ ต้องไปถามเจ้าของบ้านเอง น้องเอจึงเดินเข้าไปในบ้านเพื่อดูการ์ตูนต่อ ส่วนคนร้ายเห็นว่าไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วย จึงเรียกน้องบีเดินมาหาที่ประตูหน้าบ้าน

ก่อนที่คนร้ายจะสอนวิธีถักผมเปียให้ และขอเบอร์โทรศัพท์และไลน์ แต่ลูกสาวไม่ให้ พูดจาโน้มน้าวต่างๆ นานา และบอกว่า วันอาทิตย์จะซื้อขนมมาฝาก หลังจากใช้มืออนาจารน้องเอ แต่น้องเอไม่ยอม ซึ่งคนร้ายเห็นท่าไม่ดี เพราะมีเพื่อนบ้านเดินออกมาจากบ้านกันจำนวนมาก จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์เผ่นหลบหนีไป หลังจากพยายามก่อเหตุประมาณ 15 นาที

นางน้อย กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ระวังเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะดูข่าวในทีวี และอยู่กับลูกทุกวันอยู่แล้ว และกำชับลูกให้ปิดบ้านไว้หากแม่และพ่อไม่อยู่ แต่วันนี้ลูกสาวไม่ได้ปิดประตูบ้าน เนื่องจากมีน้องสาวอยู่ด้วย

...

รวมทั้งมีเด็กและผู้ปกครองข้างบ้าน ก็อยู่บ้านในช่วงกลางวันของวันหยุดกันจำนวนมาก ไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้าก่อเหตุในช่วงกลางวันแสกๆ โชคดีที่มีเพื่อนบ้านออกมาจากบ้านพอดี ไม่เช่นนั้นลูกสาวคงตกเป็นเหยื่อไอ้หื่นรายนี้อย่างแน่นอน

โดย ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ ผบ.หมู่ จร. สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ในฐานะตนเองทำงานร่วมกับสหวิชาชีพ หลังรับแจ้งได้รีบเดินทางเข้ามาตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือสภาพจิตใจของเด็กในเบื้องต้น พร้อมกับหาข้อมูล ตำหนิรูปพรรณ ยานพาหนะของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ

ทั้งนี้ เด็กหญิงที่ถูกกระทำจดจำใบหน้าได้อย่างชัดเจน จึงแจ้งวิทยุตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่สกัดจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย จึงอยากขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ปกครอง อย่าปล่อยให้บุตรสาวอยู่บ้านตามลำพัง เพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้