ไม่ง่าย นักเรียนไทยเล่าบรรยากาศ 1 วัน ก่อนเดินทางจากอู่ฮั่นมาประเทศไทย เพื่อกลับบ้านและหนี "ไวรัสโคโรนา" พร้อมเผยกฎ 1 ข้อห้ามเด็ดขาดจากประเทศจีน
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราว 1 วันก่อนเดินทางจากประเทศจีนสู่ประเทศไทย เพื่อหนี "ไวรัสโคโรนา" โดยระบุว่า โพสต์นี้เป็นรายงานสถานการณ์ตามมุมมองของผมเอง ในวันที่ 3 ก.พ. 2563 เราได้รับการแจ้งเตือนในกลุ่มเกี่ยวกับการเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 4 ก.พ. 2563 โดยมีการแจ้งเตือนในเรื่องการเดินทางและนัดพบอย่างละเอียด กล่าวโดยคร่าวๆ คือทุกคนจะต้องเดินทางไปพบกันที่สนามบินเทียนเหอ ในวันที่ 4 ก.พ. 62 เวลา 09.30 น. และสัมภาระที่ติดตัวไปได้ไม่เกินคนละ 7 กิโลกรัม เพราะจะไม่มีการโหลดไว้ใต้เครื่อง
สำหรับเรื่องการเดินทางไปสนามบินนั้น แต่ละคนจะมีวิธีการเดินทางที่แตกต่างกันไป บางคนมีญาติไปส่ง บางคนเช่ารถไปเอง และบางคนอาสาไปรับคนอื่นๆ ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน ส่วนผมนั้นมหาวิทยาลัยมีรถไปส่งที่สนามบิน จึงไม่มีปัญหาการเดินทาง แต่เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางเข้าเมืองอู่ฮั่นนั้นเข้าออกยากมาก เนื่องจากเมืองถูกปิดและมีการตั้งด่านเพื่อไม่ให้ผ่านทาง
ดังนั้นรถที่จะผ่านที่ระบุเลขทะเบียน ชื่อผู้ขับ ซึ่งแน่นอนเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคนที่ต้องเดินทางจากเมืองอื่นในมณฑลหูเป่ยเพื่อไปสนามบินที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น เพราะการผ่านด่านนั้นต้องมีเอกสารรับรองจากมณฑลหูเป่ย (มณฑลหูเป่ยใหญ่พอๆ หรือใหญ่กว่ากับภาคอีสานของไทย ผมประมาณคร่าวๆ ตามความรู้สึกผมนะ) แต่ปัญหาในด้านเอกสารและการผ่านทางเจ้าหน้าที่จากสถานทูตได้ช่วยกันแก้ไขจนราบรื่นไปด้วยดี ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากสถานทูตอีกครั้ง
...
จากนั้นสถานการณ์ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 3 ก.พ. หลายคนก็แจ้งปัญหาและอุปสรรคเข้ามาในกลุ่ม เช่น เจ้าหน้าที่ไม่ให้ผ่านทาง, ทางหมอกลงจัด, ยังหารถไม่ได้บ้าง ต่างคนต่างช่วยกันหาทางออก และก็ผ่านอุปสรรคกันไปได้ด้วยดี ซึ่งมีสิ่งหนึ่งที่พบเห็นคือ มีกลุ่ม survivor กลุ่มแรกได้ถึงสนามบินแล้วในเวลา 19.30 น. ส่วนผมเข้านอนเพื่อเอาแรงตอน 5 ทุ่มและตั้งปลุกในเวลาตี 5 เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาสุขภาพในเวลาเดินทาง
อย่างไรก็ตาม มีกฎ 1 ข้อจากทางการจีน คือ ถ้าอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาจะถูกปฏิเสธการออกนอกประเทศจีน ต้องถูกกักกันในประเทศจีน 14 วันแทน.
ขอบคุณเฟซบุ๊ก ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร