กรมควบคุมโรค เผยการป้องกันเชื้อเอชไอวี (HIV) และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ดีที่สุด คือ การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ พร้อมแนะ 4 ขั้นตอน ใช้ถุงยางอนามัยให้ถูกต้องและปลอดภัย

วันที่ 5 ก.พ. 2563 นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ถึงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้มีเชื้อเอชไอวีโดยไม่ป้องกัน นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่าการมีเพศสัมพันธ์กับผู้มีเชื้อเอชไอวี (ที่กินยาต้านไวรัสจนสามารถกดเชื้อได้แล้วและตรวจไม่พบเชื้อ) โดยไม่ป้องกันแต่ไม่มีการถ่ายทอดเชื้อไปยังคู่นอน หรือเรียกว่า U=U (Undetectable=Untransmittable) หมายถึง ไม่เจอ=ไม่ถ่ายทอดเชื้อ ซึ่งเป็นการวิจัยและศึกษาในคู่รักที่มีผลเลือดต่างกว่า 1,000 คู่จากหลายประเทศทั่วโลก

ขณะที่ ผลสรุปออกมาว่าไม่มีใครติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งคนที่มีเชื้อเอชไอวีต้องตระหนักและมีความรับผิดชอบกินยาต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงต้องตรวจวัดปริมาณไวรัสในเลือดเป็นประจำด้วย อย่างไรก็ตาม การป้องกันที่ดียิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพดีที่สุด ควรใช้ถุงยางอนามัยด้วยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ รวมทั้งไวรัสตับอักเสบบีและซี ด้วย

สำหรับข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี 2558 และในปี 2562 อัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคสำคัญ ได้แก่ หนองใน, ซิฟิลิส, หนองในเทียม, แผลริมอ่อน และกามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง สูงขึ้น ซึ่งอัตราป่วยในทุกกลุ่มอายุเท่ากับ 33.9 ต่อประชากรแสนคน โรคที่มีอัตราป่วยสูงที่สุดได้แก่ หนองใน รองลงมาได้แก่ ซิฟิลิส และกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปี มีอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคสำคัญสูงสุด ถึง 124.6 ต่อประชากรแสนคน

...

ขณะที่ การมีเพศสัมพันธ์ ถือเป็นเรื่องใกล้ตัว และต้องรู้จักป้องกันอย่างถูกวิธี ทั้งการป้องกันเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ รวมถึงไวรัสตับอักเสบบีและซี เป็นต้น ด้วยการใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ถือเป็นการรับผิดชอบต่อคู่รักและตัวเราเองให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยจากข้อมูลพบว่าการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีมีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึง 98% อีกทั้งเทคโนโลยีมีการพัฒนาถุงยางอนามัยขึ้นมาหลายขนาด พร้อมทั้งเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ เช่น กลิ่น สี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคู่รักให้เลือกใช้งานได้อย่างสะดวก

สำหรับการใช้ถุงยางอนามัย ควรใช้ให้ถูกต้องและปลอดภัยด้วย 4 ขั้นตอนง่ายๆ คือ "เลือก เก็บ ใช้ ทิ้ง"

1. (เลือก) ให้ถูกไซส์ หากเลือกผิดอาจจะทำให้ถุงยางอนามัยฉีกขาดหรือหลุดได้ง่าย ตรวจดูวันผลิตหรือวันหมดอายุก่อนทุกครั้ง และมีเครื่องหมายมาตรฐาน อย.

2. (เก็บ) ให้ถูกวิธี ไม่ควรเก็บถุงยางอนามัยในที่มีความชื้นสูง อากาศร้อน เพราะอาจเสื่อมคุณภาพ ไม่ควรไว้ในกระเป๋าสตางค์หรือกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เพราะอาจฉีกขาดได้ง่าย ควรเก็บในจุดที่สามารถหยิบใช้งานได้ง่ายและสะดวก

3. (ใช้) ให้ถูกวิธี เมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง ทุกคน ทุกช่องทาง โดยระมัดระวังการฉีกซองอย่าให้เล็บสะกิดถุงยางอนามัย เพราะอาจฉีกขาด จากนั้นให้บีบปลายถุงไล่ลมก่อนใส่เสมอ และสวมถุงยางอนามัยขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัว บีบปลายถุงขณะสวมแล้วรูดให้สุดโคน

4. (ทิ้ง) ให้ปลอดภัย ซึ่งสำคัญที่สุด เมื่อเสร็จกิจให้รีบถอดถุงยางอนามัยออก โดยใช้นิ้วสอดเข้าในขอบถุงหรือใช้กระดาษทิชชูห่อแล้วรูดออก จากนั้นทิ้งลงถังขยะให้มิดชิด ไม่ควรทิ้งลงชักโครกหรือในแม่น้ำ ลำคลอง เด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม การป้องกันเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้มีประสิทธิภาพที่สุด คือการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ นับเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและมีความรับผิดชอบต่อคู่รักและตัวเราเองได้ง่ายที่สุดและปลอดภัยจากโรคต่างๆ อีกด้วย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422