"น้องทิม" ขอบคุณทุกความช่วยเหลือ หลังธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือ เผยเรียนจบแล้วจะกลับมาช่วยเหลือชุมชน ด้าน รมว.พม. รับปากช่วยเหลือทุนจนจบการศึกษา
จากกรณี "น้องทิม" เด็กเรียนดีสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) คนแรกของโรงเรียนในรอบ 40 ปี แต่ฐานะยากจน ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ทำให้มีการแชร์ขอความช่วยเหลือกันในโลกออนไลน์ ต่อมาทางคณะแพทยศาสตร์ ม.อ. ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเกี่ยวกับเงินทุนค่าเล่าเรียนว่าทางคณะพร้อมจะช่วยเหลืออยู่แล้ว ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 2 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นางสุพร วงศ์หนองเตย ผู้จัดการโรงเรียนวิวัฒน์วิทยา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้เดินทางเข้าเยี่ยม นายดวงเกียรติ ทรัพย์ส่ง หรือ น้องทิม โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการ และภาคเอกชนอื่นๆ เข้ามาติดต่อขอข้อมูลด้วย
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนเห็นข่าวที่นำเสนอไปเมื่อวานนี้ ก็รู้สึกดีใจที่เด็กบ้านเราใน อ.ห้วยยอด เด็กเรียนเก่งสอบติดคณะแพทยศาสตร์ ม.อ. เห็นข่าวแล้วรู้สึกเห็นใจเด็กก็อยากจะช่วย เป็นจังหวะพอดีกับ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้โทรมาสอบถามว่าเห็นข่าวหรือยัง ผมมีคนจะช่วยได้นะให้ไปคุยกับเขาหน่อย ถ้ามีคนช่วยมาแล้ว ส่วนที่เหลือตลอดจนจบหลักสูตรยอดเงินอีกจำนวนเท่าไหร่ จะมีคนช่วยเหลือจนกระทั่งจบการศึกษาแพทย์ตามที่ตั้งใจไว้
...
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า เมื่อได้คุยกับเด็กแล้วมีความตั้งใจมาก ก็เลยได้แจ้งข่าวนี้ให้ทราบว่าตลอดหลักสูตรจะต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ เด็กบอกว่าทางมหาวิทยาลัยแจ้งมาคร่าวๆ คงอยู่ที่ประมาณ 7-8 แสนบาท ไม่รวมอุปกรณ์อื่นๆ ตนจึงแจ้งทางนี้ไปบอกว่าถามว่ามีใครเข้ามาช่วยหรือยัง ซึ่งทราบว่ามีหลายหน่วยงานมาสอบถามแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ช่วยมา คาดว่าอยู่ในระยะดำเนินการ จึงบอกว่าถ้ามีคนบริจาคมาแล้วขาดเท่าไหร่ ในส่วนที่เหลือทาง รมว.พม.ก็จะประสานทุนการศึกษาให้จนกระทั่งจบแพทย์
โดยขอให้เด็กตั้งใจเรียนอย่างเดียวจนจบการศึกษาซึ่งก็ได้แจ้งให้ทราบแล้ว คาดว่าประมาณ มี.ค.-เม.ย.63 ก็จะได้พบกับเจ้าของทุนที่มอบให้ ส่วนตนเองนำทุนการศึกษามาให้เบื้องต้นก่อนจะได้ดูแลในช่วงที่กำลังศึกษาจะจบ ซึ่งดูเด็กแล้วมีความตั้งใจดี ดูสภาพบ้านมีความพยายามอุตสาหะมาก ดูที่หลับที่นอนดูโต๊ะก็น่าเห็นใจ การที่สอบเรียนได้ขนาดนี้มีความพยายามสูงมาก ซึ่งอันนี้น่าชื่นชมแม้ว่าไม่ได้มาจากโรงเรียนดัง มาจากโรงเรียนธรรมดาแต่ว่ามีความพยายามจนกระทั่งสอบได้ในสาขาวิชาซึ่งยากมาก
ขณะที่ น้องทิม กล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจว่า ตั้งแต่มีคนเข้ามาช่วยเหลือก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะมาก เพราะได้มีเงินสำรองคอยเอาไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น ทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือตนเองต้องขอบพระคุณมากๆ ถือว่าเป็นพระคุณอย่างยิ่งในชีวิตของตน ถึงแม้ว่าบางท่านจะโอนมาด้วยเงินจำนวนไม่มากแต่มีค่าสำหรับจิตใจตนเองมาก
"ผมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า วงการนี้ถ้าเข้าไปแล้วก็ต้องกลับมาทำงานโรงพยาบาลชุมชน เข้ามาเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีโอกาสไปโรงพยาบาล ซึ่งตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาเปิดคลินิกรักษาคนที่ฐานะไม่ค่อยดี อาจจะไม่เก็บค่ารักษาพยาบาล หรือมีเท่าไหร่ก็จ่ายเท่าที่มี ทางด้านสาธารณสุขตามชนบทอาจจะมีความลำบากในการเดินทางไปโรงพยาบาล ถึงแม้จะมีโรงพยาบาลเข้าไปช่วยเหลือ หรือมี อสม.เข้ามาดูแล มีแพทย์ชนบทเข้ามาดูแลด้วยได้ช่วยความเหลื่อมล้ำตรงนี้".