แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา วิเคราะห์การระบาดของ "ไวรัสอู่ฮั่น" แนะใช้ทุกมาตรการ เพื่อลดความสูญเสีย แม้ต้องใช้เวลายาวนานขึ้น เตือนอย่ารังเกียจคนจีน แต่ต้องช่วยกันฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน

จากกรณี การแพร่ระบาดของ "ไวรัสโคโรน่า" หรือ "ไวรัสอู่ฮั่น" ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ให้ความรู้ เกี่ยวกับการระบาดของโรค พร้อมวิเคราะห์การเตรียมพร้อมในการลดความสูญเสีย โดยระบุว่า เมื่อมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จนมีภูมิต้านทานกลุ่มเกิดขึ้นมากพอ โรคก็จะหยุดระบาด ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ โดยไม่ได้ทำอะไรเลย การระบาดของโรคจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

...

ตามภาพจำลองเส้นกราฟ สีแดง ถ้าไม่ทำอะไรเลย การระบาดจะมีผู้ป่วยจำนวนมาก อาจใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เมื่อมีผู้ป่วยติดเชื้อและมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น เป็นจำนวนมาก โรคก็จะหยุดเอง แต่ปัญหาอยู่ที่ เมื่อมีผู้ป่วยจำนวนมาก จะเกินความสามารถที่ บุคลากรทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขจะรองรับได้ อาจทำให้เกิดความโกลาหล และยังเกิดความสูญเสียจำนวนมาก

แต่ถ้ามีมาตรการในการดูแล ควบคุม พยายามหยุดยั้งการระบาดของโรค ด้วยมาตรการระดับหนึ่ง ให้การระบาดของโรคลดลง แต่ระยะเวลาจะยาวนานขึ้น เหมือนเส้นกราฟ สีขาว 

แต่สิ่งที่อยากให้เป็นคือ คือแบบเส้น สีเหลือง ใช้มาตรการทุกสิ่งอย่าง เข้มงวด จริงจัง ที่ขัดขวางการระบาดของโรค ให้มีจำนวนผู้ติดโรคน้อยที่สุด แม้การระบาดของโรค จะยาวนานขึ้น จนกว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันกลุ่ม อาจจะมากกว่า 1 ปี แต่จะทำให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด เป็นการกระจายผู้ป่วย ให้เกิดขึ้นทีละน้อย จนกว่าจะได้ภูมิคุ้มกันกลุ่มมากเพียงพอ หรือมีวัคซีนมาช่วยเสริมภูมิต้านทานกลุ่มให้เร็วขึ้น โรคก็จะหยุดระบาด และกลายเป็นโรคประจำถิ่น

ซึ่งนอกจากทางราชการ และผู้เกี่ยวข้องที่ทำงานอย่างหนักแล้ว ทุกคนต้องช่วยกันดูแลตัวเองด้วย

นอกจากนี้ ศ.นพ.ยง ยังบอกด้วยว่า ไม่มีใครอยากให้เกิด ไวรัสโคโรน่า หรือ ไวรัสอู่ฮั่น แต่ไวรัสชนิดนี้ ไม่ได้รุนแรงไปกว่าไข้หวัดใหญ่ การรังเกียจชาวจีน วิ่งหนี หรือปฏิเสธการขายของให้ชาวจีน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง แต่ควรร่วมกันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน.

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan