ในชีวิตการทำงานเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะมีโอกาสเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ จนจำเป็นต้องหยุดงาน ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงตั้งกองทุนเงินทดแทนขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างในเรื่องต่างๆ และล่าสุดได้มีการประกาศ พ.ร.บ.เงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ซึ่งทำการปรับปรุงความคุ้มครองให้ดีขึ้น (ลูกจ้างรัฐ-เอกชนเฮ! ได้เงินทดแทนเพิ่มเป็น 70% ตั้งแต่วันแรกที่หยุดงาน) ซึ่งได้มีการปรับปรุงค่ารักษาพยาบาลและขยายความคุ้มครองให้ลูกจ้าง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น และนายจ้างได้รับความเป็นธรรม
ทั้งนี้ ได้มีการเพิ่มอัตราการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน และค่าทำศพกรณีลูกจ้างประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยจนถึงแก่ความตาย โดยออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ ดังนี้
- เพิ่มอัตราค่าทดแทนกรณีต่างๆ จาก 60% เป็น 70% ของค่าจ้างรายเดือน
- เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างทุพพลภาพเป็นไม่น้อยกว่า 15 ปี จากเดิมไม่เกิน 15 ปี
- เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิตหรือสูญหายเป็น 10 ปี จากเดิมกำหนด 8 ปี
- กำหนดการจ่ายค่าทดแทน 70% ของค่าจ้างรายเดือน กรณีลูกจ้างเจ็บป่วยจากการทำงาน และแพทย์สั่งให้หยุดงาน ไม่สามารถมาทำงานได้ ให้ได้รับเงินชดเชยตั้งแต่วันแรกที่หยุดงาน จากเดิมจ่ายค่าทดแทนเฉพาะกรณีไม่สามารถทำงานได้ติดต่อกันเกิน 3 วัน
- เพิ่มสิทธิรักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยจากการทำงานให้ลูกจ้างราชการ จนสิ้นสุดการรักษา ไม่ว่าค่ารักษาจะเป็นเท่าไรก็ตาม (เข้างานวันแรกก็ได้สิทธิทันที) ส่วนลูกจ้างส่วนเอกชน จะได้รับสิทธิเพิ่มค่ารักษาพยาบาลจนการรักษาสิ้นสุด จากเดิมตั้งเพดานที่ 2 ล้านบาท