นายอำเภอตะกั่วป่า สั่งตรวจสอบปลาขนาดใหญ่กัดนักท่องเที่ยวจนขาเหวอะหวะ ขณะลงเล่นน้ำทะเลบริเวณชายหาดนางทอง จ.พังงา ด้าน ดร.ธรณ์ คาดเป็น ฉลามหัวบาตร จู่โจมเพราะเข้าใจผิด

จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพนักท่องเที่ยวถูกปลาขนาดใหญ่กัดบริเวณขาจนเป็นแผลเหวอะหวะ ที่จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 12 ม.ค.63 ซึ่งขณะนี้ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 13 ม.ค.63 ว่าที่ร้อยเอกพงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นางสาวจิตติมา คงพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านบางหลาโอน ม.7 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่ามีนักท่องเที่ยวชายชาวเยอรมันเล่นน้ำในทะเล บริเวณหาดนางทอง ม.7 ก่อนจะโดนปลาตัวใหญ่ไม่ทราบชนิดกัดบริเวณขาขวา มีแผลฉีกขาด และรอยฟันขนาดใหญ่ ก่อนนำตัวส่งทำความสะอาดแผลที่ศูนย์การแพทย์เขาหลัก และส่งต่อไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนที่ จ.ภูเก็ต

หลังจากทราบเรื่อง ตนจึงประสานให้ประมงอำเภอร่วมกับศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพังงา (TAC : Tourist Assistance Center) เข้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

...

เบื้องต้นพบว่า ผู้ประสบเหตุเป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 75 ปี โดยขณะเล่นน้ำกับภรรยา ซึ่งห่างจากฝั่งประมาณ 6-7 เมตร นักท่องเที่ยวรู้สึกมีปลาตัวใหญ่แต่ไม่ทราบชนิด ว่ายบริเวณนักท่องเที่ยวเล่นน้ำ ก่อนจะพุ่งเข้าหานักท่องเที่ยวและกัดบริเวณขาขวาฉีกขาด ยาวประมาณ 20 ซม. ซึ่งขณะนี้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวอยู่ระหว่างพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนของจังหวัดภูเก็ต โดยมีพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

โดยทีมแพทย์ระบุผลว่า เส้นเอ็นบริเวณขาขวาฉีกขาด ได้ประสานและเย็บแผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้นักท่องเที่ยวอาการดีขึ้นมาก หากแผลไม่อักเสบ ภายในวันที่ 14 ม.ค.นี้จะอนุญาตให้กลับได้

ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า เหตุการณ์ฉลามกัดในไทยเกิดนานๆ ครั้ง เช่น ที่ภูเก็ต (ปี 60) ที่เขาเต่า (ปี 61) เกือบทุกครั้งถูกกัดที่ขาแต่ไม่สาหัส ฉลามที่กัดอาจเป็นฉลามหัวบาตร เพราะฉลามหูดำน่าจะเป็นรอยเล็กกว่านี้ และไม่ค่อยโจมตีสัตว์ใหญ่กว่า

ฉลามจู่โจมอาจด้วยความเข้าใจผิด เพราะชายฝั่งน้ำขุ่น พอเห็นวูบก็นึกว่าเป็นเหยื่อ แต่เมื่อกัดแล้วรู้ว่าไม่ใช่ก็เลยหนีไป ฉลามหัวบาตรอาจพบได้ตามชายฝั่งทั้งอ่าวไทยและอันดามัน แต่ไม่บ่อยนัก ไม่มีผู้ถูกฉลามจู่โจมจนเสียชีวิตอย่างเป็นทางการในทะเลไทยมากว่า 50 ปีแล้ว ที่ผ่านมาในประเทศไทยฉลามไม่เคยโจมตีรายอื่นซ้ำที่เดิม

แต่ละปีทั่วโลกมีรายงานคนถูกฉลามจู่โจมเสียชีวิต 5-10 ราย แต่ฉลามถูกคนล่า 70+ ล้านตัว/ปี รู้จักฉลาม เข้าใจฉลาม และเลิกกินหูฉลามครับ ส่วนคำแนะนำคือไม่ต้องกังวลมาก ไม่ต้องทำข่ายกั้น ฯลฯ แต่ระวังไว้นิดหากต้องลงน้ำตอนเช้าตรู่หรือตอนค่ำ/กลางคืน

นายอำเภอตะกั่วป่ากล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้กำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ประมงได้ออกไปดูแลข้อมูลและให้ข้อคิดเห็นว่าเป็นสัตว์ชนิดใด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดและประมงอำเภอว่าเป็นสัตว์ชนิดไหน แต่จากลักษณะที่เกิดขึ้นมีการชี้ว่าคล้ายกับฉลามตัวเล็ก ฉลามหนู แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน ซึ่งก่อนหน้านี้ในพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดภูเก็ตพบว่ามีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ มีลักษณะบาดแผลที่ใกล้เคียงกัน โดยทางนักวิชาการระบุว่า น่าจะเกิดจากฉลามครีบดำ แต่ลักษณะที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตะกั่วป่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด

อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานในพื้นที่ได้มีการแจ้งไปยังผู้ประกอบการโรงแรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในพื้นที่ ขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากสัตว์ที่ดุร้าย ไม่ต้องตื่นตระหนก ซึ่งต่อไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบให้แน่ชัด ขณะนี้ทางจังหวัดพังงาได้ดูแลนักท่องเที่ยวที่นอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ก็คาดว่าประมาณสัก 2 วัน ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้.