ชาวบุรีรัมย์ 14 คน พร้อมพระสงฆ์ 2 รูป มาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่วัดหนองเต่า เผยความลี้ลับยามค่ำคืน อ้างเห็นผู้หญิงแต่งชุดไทยสีเขียว สีแดงเดินลงจากโบสถ์ พบเล่าเรื่องตรงกับ นายบุญชู


วันที่ 22 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่โบสถ์ร้าง วัดหนองเต่า ม.5 ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พบชาวบ้านในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 14 คน และพระสงฆ์ 2 รูปเดินทางมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานโดยรอบโบสถ์ร้างวัดหนองเต่า โดยอ้างว่ามาปลดปล่อยวิญญาณที่อาศัยอยู่ในบริเวณโบสถ์ร้างให้ไปยังภพภูมิ หลังทราบเรื่องราวความลี้ลับที่วัดหนองเต่า ทีมีเสียงดนตรีบรรเลงปี่พาทย์บรรเลง และหญิงสาวแต่งกายชุดไทยจำนวน 5-6 คน ออกมาร่ายรำก่อนเดินเข้าไปภายในโบสถ์ร้างเป็นประจำในยามค่ำคืน

นายบุญชู อายุ 66 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้บริเวณโบสถ์ร้างอายุกว่า 100 ปี ที่วัดหนองเต่า เปิดเผยว่า นอกจากเห็นหญิงสาว 5-6 คน สวมชุดไทยออกมาร่ายรำ พร้อมเสียงบรรเลงปี่พาทย์แล้วในตอนกลางคืนแล้ว ยังเห็นหญิงสาวแต่งชุดไทยสีแดงและสีเขียว สวยงาม และมีหน้าตาละม้ายคล้ายกัน เดินออกมาจากโบสถ์ร้างด้านข้างและด้านหน้าโบสถ์ ออกมากราบพระพุทธรูป ซึ่งชาวบ้านที่มามาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานก็ได้เห็นเหมือนกัน

...

ขณะที่ นายชุติเทพ อายุ 45 ปี ชาวบุรีรัมย์ ที่เดินทางมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เล่าให้ฟังว่า ตนเองพบเห็นผู้หญิงแต่งชุดไทยสีแดง และแต่งชุดไทยสีเขียว เดินออกมาจากโบสถ์แล้วไปกราบพระพุทธรูป ซึ่งเห็นเหมือนกับนายบุญชู เมื่อเล่าถึงรูปร่างหน้าตาทั้งสองก็ได้เล่าตรงกัน และยังพบเห็นหญิงที่แต่งชุดไทยเป็นนางรำ มีอยู่กว่า 10 คน ที่ยังคงวนเวียนอยู่ภายในโบสถ์ และที่เดินทางมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในยามค่ำคืนนี้ก็เพื่อช่วยกันปลดปล่อยวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่สร้างบุญกันมาและจะเดินทางกลับในตอนเช้า ซึ่งบริเวณโบสถ์ร้างวัดหนองเต่านั้นมีวิญญาณเร่ร่อนอีกจำนวนมาก

สำหรับโบสถ์ร้างแห่งนี้คาดว่าอายุน่าจะมากกว่า 100 ปี มีขนาดความกว้างประมาณ 6 เมตร ยาวประมาณ 12 เมตร ก่อด้วยอิฐ และหลังคาทรุดโทรมเสียหาย มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ตรงกลางเป็นร่มเงาอยู่กลางโบสถ์ คอยพยุงไว้ไม่ให้พังทลาย ส่วนที่บริเวณด้านหน้าตรงทางเข้ามีรูปปั้นเต่าขนาดใหญ่ ที่ด้านข้างมีพระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่ประดิษฐานอยู่เป็นที่สักการบูชา ส่วนโดยรอบมีพื้นที่ป่าและสวนที่ชาวบ้านได้เช่าพื้นที่วัดปลูกต้นไม้เอาไว้โดยที่บริเวณดังกล่าวจะมีเต่าชุกชุม ซึ่งวัดหนองเต่ามีเนื้อที่ 3 ไร่ 14 ตารางวา

โดยทางครอบครัวของ ของนายบุญชู ได้เช่าที่วัดหนองเต่าทำสวนปลูกผลไม้ และได้ปลูกบ้านอยู่ห่างจากโบสถ์ร้างประมาณ 100 เมตร มานานตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งจะได้พบเรื่องราวอาถรรพณ์ลี้ลับที่โบสถ์ร้าง จะได้ยินเสียงดนตรีปี่พาทย์บรรเลงยามค่ำคืนเป็นประจำพ่อและแม่สั่งไว้ไม่ให้หันไปดูที่โบสถ์ร้างเมื่อได้ยินเสียงดนตรีปี่พาทย์ แต่ตนเองได้หันไปมองพบเห็นหญิงสาวแต่งกายชุดไทยจำนวน 5-6 คน ออกมาร่ายรำก่อนเดินเข้าไปภายในโบสถ์ร้าง และได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงปี่พาทย์บรรเลงอย่างไพเราะเป็นประจำในยามค่ำคืน แล้วมีหญิงสาวแต่งชุดไทยสวยงามออกมาร่ายรำให้เห็นเป็นประจำ ซึ่งมีชาวบ้านนักเสี่ยงโชคได้เดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภนำไปเสี่ยงดวงกันอย่างต่อเนื่อง.