"หมอเอ้ก" ชงดันกฎหมาย "บริจาคอวัยวะอัตโนมัติ" เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงมากขึ้น หวังลดอัตราการเสียชีวิต ช่วยชีวิตผู้ป่วย คาดว่าร่างกฎหมายแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.62 นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ หรือ หมอเอ้ก คณะที่ปรึกษา รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า การปลูกถ่ายอวัยวะ เนื้อเยื่อ และดวงตา เป็นการรักษาที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต ลดความพิการ ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด แต่ยังมีปัญหาในการเข้าถึงการปลูกถ่าย ซึ่งมีผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะและดวงตาเพิ่มขึ้นทุกปี
ปัจจุบันมีผู้รอรับอวัยวะ 6,245 ราย และผู้รอรับดวงตา 12,964 ราย ขณะที่สามารถปลูกถ่ายอวัยวะได้ปีละ 500-700 ราย ปลูกถ่ายกระจกตาได้เพียงปีละ 700-800 ราย และผู้ป่วยรอปลูกถ่ายไตไม่ต่ำว่า 3 ปี
ดังนั้นเพื่อให้มีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มมากขึ้น ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้ให้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ "บริจาคอวัยวะอัตโนมัติ" หลังเสียชีวิต ซึ่งคณะทำงานนี้ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี ผู้ชำนาญงานด้านกฎหมาย นักเศรษฐศาสตร์ และเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อศึกษาถึงแนวทางใหม่ของการบริจาคอวัยวะ
...
โดยในช่วงแรกจะใช้แนวทางให้ ประชาชนต้องตัดสินใจว่าอยากจะให้อวัยวะหรือไม่ เมื่อไปทำธุรกรรมเอกสาร เช่น การต่อบัตรประชาชน ใบขับขี่ เป็นต้น และเมื่อมีความพร้อมมากขึ้น จะปรับระบบให้ทุกคนมีตัวเลือกตั้งต้นว่าเป็นผู้ "บริจาคอวัยวะ" และกรณีที่เลือกไม่อยากเป็นก็สามารถออกจากการเป็นผู้ให้อวัยวะได้ทุกเมื่อ
"สำหรับตัวร่างกฎหมายดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งหากกฎหมายผ่านและมีการนำไปใช้ คาดในระยะแรกจะมีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มร้อยละ 30 และเมื่อปรับเป็นการเปลี่ยนตัวเลือกตั้งต้นจะมีผู้บริจาคถึงร้อยละ 70 ซึ่งจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เพิ่มมากขึ้น จึงอยากขอให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน มาร่วมกันผลักดันให้กฎหมายนี้เกิดขึ้น"