เปิดใจ เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ เล่านาทีเข้าช่วยเหลือ "น้องเนส" วันเกิดเหตุ เผยเด็กสลบหมดสติ ตามตัวมีรอยเขียวช้ำ ถูกทิ้งอยู่เพียงลำพัง

จากกรณี น.ส.รัชนาพร อายุ 25 ปี พี่เลี้ยงโหด เข้าพบตำรวจ สภ.บางสะพาน หลังทำร้าย "น้องเนส" วัย 2 ขวบ อาการปางตาย ยอมรับใช้ไม้แขวนเสื้อตีจริงเพราะโมโหเด็กดื้อ ก่อนถูกส่งควบคุมตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น อ่านข่าว พี่เลี้ยงโหด มอบตัวแล้ว รับทำร้าย "น้องเนส" วัย 2 ขวบ อาการปางตาย


ล่าสุด วันที่ 7 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ บริเวณปากทางหมู่บ้านสาริกาการ์เด้น ริมถนนสายบางสะพาน-หนองหัดไท พื้นที่ ม.1 ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าประตูลูกกรงและประตูบ้านและหน้าต่างได้ถูกปิดล็อกไว้

จากการสอบถามผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของเถ้าแก่ซึ่งเป็นไต๋เรือที่แฟนของ น.ส.รัชนาพร ไปทำงานอยู่ด้วย ได้ให้ น.ส.รัชนาพร มาพักอยู่อาศัย และมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าออกบ้านหลังดังกล่าวอยู่เป็นประจำในช่วงค่ำ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นทั่วๆ ไป มานั่งพูดคุยกัน ซึ่งภายหลังจากเกิดเรื่องขึ้น น.ส.รัชนาพร ก็ไม่ได้กลับมายังบ้านหลังดังกล่าวอีกเลย

...

น.ส.นุชจรี พรมแก้ว พนักงานการแพทย์ฉุกเฉิน มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน บางสะพาน ซึ่งเป็นผู้เข้าไปนำตัว น้องเนส ส่งโรงพยาบาล เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 3 ก.ย.62 ได้รับจากศูนย์สั่งการ 1669 ให้เข้าไปรับผู้ป่วยเด็ก มีไข้ ชักเกร็ง ที่บ้านหลังดังกล่าว

เมื่อไปถึงก็มีพี่ผู้ชายอยู่คนหนึ่งรออยู่บริเวณหน้าบ้าน แจ้งว่ามีเด็กนอนชักอยู่ในบ้าน โดยบริเวณภายในห้องทางด้านซ้ายมือพบน้องเนส นอนอยู่บนที่นอนปิกนิก ห่มผ้าอยู่เพียงลำพัง ไม่มีใครอยู่ภายในตัวบ้าน เบื้องต้นพบว่าเด็กมีอาการนอนตัวเกร็งแต่ก็ไม่มีอาการชัก โดยคาดว่าน่าจะหยุดชักแล้ว และน้องไม่รู้สึกตัว ไม่ลืมตา ก็เลยมีการประเมินเบื้องต้นพบเด็กก็ยังหายใจอยู่ และยังมีสัญญาณชีพอยู่

จากนั้นได้รีบนำตัวน้องขึ้นรถฉุกเฉิน เพื่อนำส่งไปยัง รพ.บางสะพาน โดยช่วงที่อยู่บนรถ ก็ได้มีการตรวจประเมินน้องเนสอย่างละเอียด โดยได้ใส่เครื่องช่วยหายใจมาตลอด และพบว่าตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำไปทั่วทั้งตัว นอนไม่รู้สึกตัว ไม่ได้สติ จึงได้ประสานรถฉุกเฉินจากโรงพยาบาลบางสะพาน มาช่วยเปลี่ยนถ่ายระหว่างการนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาล เนื่องจากน้องอาการสาหัสมาก จนกระทั่งมาทราบข่าวน้องจากสื่อต่างๆ.