กู้ภัยจับ "เห่าช้าง" สัตว์เลื้อยคลานในวงศ์เหี้ย สัตว์ป่าคุ้มครองปัจจุบันพบยากมาก อยู่ในบ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้าน ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ก่อนนำปล่อยคืนธรรมชาติ
วันที่ 29 ส.ค.62 ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา หน่วยกู้ชีพนาทวีนอก ร่วมกันหน่วยกู้ภัยอาริโยสามัคคี ได้รับแจ้งของความช่วยเหลือจากเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ในเขตเทศบาลนาทวีนอก อ.นาทวี ว่าให้ไปช่วยจับสัตว์เลื้อยคลาน ที่ลงไปอยู่ในบ่อเลี้ยงปลา ก่อนนำตัวขึ้นมาได้
ซึ่งตอนแรก เจ้าหน้าที่กู้ภัย คิดว่า เป็นตะกวด หรือไม่ก็ตัวเงินตัวทอง หรือที่ภาษาชาวบ้านในภาคใต้เรียกสัตว์ประเภทนี้ว่า แลน แต่เมื่อดูชัดๆ กลับไม่ใช่ และพบว่า ที่จริงแล้ว เป็น "เห่าช้าง" หรือ "เหี้ยเห่าช้าง" สัตว์ที่อยู่ในวงศ์เหี้ย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองปัจจุบันพบยากมาก โดยที่มาของชื่อเห่าช้างนั้น มาจากเสียงขู่ศัตรูที่ดัง ฟ่อๆ คล้ายเสียงงูเห่า และดุร้ายกว่าเหี้ยชนิดอื่น เจ้าหน้าที่จึงได้นำกลับไปปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติต่อไป
สำหรับเห่าช้าง ต่างจากตัวเงินตัวทอง ตรงที่มีความยาวประมาณ 1.30 เมตร ลักษณะมีสีดำเข้ม มีลายเลือนๆ ขวางลำตัว ปากแหลม และเกล็ดบนสั้น เกล็ดบนคอใหญ่เป็นแหลมๆ คล้ายหนามทุเรียน เฉพาะช่วงคอเกล็ดจะย้อนไปหาส่วนหัว อาศัยอยู่ในป่าทึบ และเดินหากินบนพื้นดิน แต่ก็ปีนต้นไม้เก่ง พบในป่าประเภทป่าดิบชื้น และป่าชายเลนในภาคใต้ของประเทศไทย และพม่า, หมู่เกาะสุมาตรา, บอร์เนียว, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ แต่ก็มีรายงานพบที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา อาหารคือ ไก่, นก, ปลา, กบ, เขียด กินได้ทั้งของสด และของเน่า
...
ทั้งนี้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยโพสต์ถึงเหี้ยเห่าช้าง ไว้ในเฟซบุ๊กว่า "เห่าช้าง" หรือเหี้ยเห่าช้าง เป็นสัตว์เลื้อยคลานกลุ่มเหี้ย-ตะกวด ไม่ใช่งู (แม้ว่าบางท้องถิ่นจะเรียก งูเห่าช้าง) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่หายากขึ้นทุกวัน แม้จะดูดุร้าย แต่น้ำลาย หรือในเนื้อ ก็ไม่มีพิษ แต่ในน้ำลาย มีเชื้อโรคสะสมอยู่มากมาย ใครโดนกัดจะติดเชื้อในแผลได้ ดังนั้นควรปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ.