โจ นูโว พร้อมหลักฐานเดินทางเข้าพบ รอง ผบก.ปอท. เอาผิดคนสร้างเฟซบุ๊กปลอม กุข่าวทำเสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนสำนักข่าวที่หลงนำเสนอข่าวไม่เอาความ


จากกรณี นายจิรายุส วรรธนะสิน หรือ โจ นูโว ถูกคนสร้างแฟนเพจเฟซบุ๊กปลอม ใช้ชื่อว่า "โจ นูโว จิรายุส วรรธนะสิน" โพสต์ข้อความว่า เป็นคนเรียกร้องให้นายกฯ ออกมาทำรายการสื่อสารกับพี่น้องประชาชนเหมือนสมัย คสช. ซึ่งภายหลังพบว่ามีคนแชร์โพสต์จากเฟซบุ๊กปลอมไปเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด วันที่ 7 ส.ค.62 ที่ บก.ปอท. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โจ นูโว พร้อมด้วย นายสุพจน์ สุธรรม ทนายความ ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. เอาผิดต่อผู้ที่ปลอมแปลงเฟซบุ๊ก แล้วโพสต์ข้อความลงไป ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

โจ นูโว เปิดเผยว่า เฟซบุ๊กปลอมดังกล่าวมีชื่อว่า นายจิรายุส วรรธนะสิน เขียนเป็นภาษาไทย และคนกดไลค์อยู่ ประมาณ 150 คน แต่เฟซบุ๊กส่วนตัวของตนจริงๆ จะเขียนเป็นภาษาอังกฤษ และไม่ได้เปิดสถานะเป็นสาธารณะ จะเห็นได้เฉพาะคนที่เป็นเพื่อนเท่านั้น ส่วนใหญ่ตนจะโพสต์ความเคลื่อนไหวในอินสตาแกรมที่คนทั่วไปเห็นได้

คนปลอมเฟซบุ๊กพยายามเคลื่อนไหวด้วยการนำภาพคุณพ่อตอนตีแบตมาลง นำเบอร์โทรไว้สำหรับจ้างงาน เมื่อตนลองโทรไปก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทั้งยังโพสต์ข้อความหลายๆ ข้อความสร้างความเกลียดชังให้กับตน เมื่อเข้าไปดูในคอมเมนต์ก็มีแต่คนมาด่าตน ว่าแบบนั้น แบบนี้ ซึ่งไม่สามารถพูดออกอากาศได้เลย มีประมาณ 2,000 กว่าข้อความ และได้ใช้เฟซบุ๊กจริงของตนเข้าไปชี้แจงว่า นั่นคือของปลอม

...

“หลังจากที่มีการปลอมเฟซบุ๊กของตน จึงทำให้เกิดเฟคนิวส์ หรือแม้กระทั่งสำนักข่าวหลักๆ 3-4 แห่งยังเชื่อ นำเอาข้อความจากเฟซบุ๊กปลอมไปลงเป็นข่าว ซึ่งเป็นการทำงานของสื่อฯ ตนไม่ประสงค์จะเอาผิดแต่อย่างใด แม้ข้อความดังกล่าวจะไม่เป็นความจริง และตนก็ไม่ได้โพสต์ใดๆ ทั้งสิ้นเลย คนที่ปลอมอาจจะคิดว่าตนว่างมาก มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาก เลยอยากให้ตนมีปัญหาบ้าง

ซึ่งมันไม่ดีเลย มันสร้างความเกลียดชังให้กับตนมากกว่า และที่สำคัญ ก้อง สหรัถ เตือนว่าอาจจะทำให้คนที่หลงเชื่อว่าเฟซบุ๊กนั้นสามารถจ้างงานได้ แล้วมีการโอนเงินมัดจำไป นั่นยิ่งจะทำให้วงนูโวเสียหาย


ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องตนจากการตรวจสอบ พบว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ปิดไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทาง คุณโจ นูโว ก็แคปภาพภาพและข้อความทั้งหมดไว้แล้ว และก็ได้นำมามอบให้ตนในวันนี้ ซึ่งผู้ที่ปลอมเฟซบุ๊กดังกล่าวมีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ในเวลานี้ ว่า ส่วนเรื่องข่าวเฟคนิวส์มีอยู่จริงไม่ใช่เรื่องใหม่ ถือเป็นภัยคุกคามที่ทั่วโลกประสบปัญหาเช่นกัน จริงๆ แล้วเกิดจากพฤติกรรมของผู้ใช้สื่อโซเชียลเปลี่ยนไป

จากเดิมที่ติดตามข่าวจากสำนักข่าวใหญ่ๆ ที่มีการคัดกรองข้อมูลข่าวในระดับหนึ่ง มาเป็นการอ่านข่าวจากห้องแชตในกลุ่มเพื่อน หรือฟีดข่าวในสื่อโซเชียลต่างๆ แล้วเชื่อโดยไม่ทันตรวจสอบข้อมูล จากนั้นได้ส่งต่อข้อมูล ซึ่งปัจจุบันทำได้โดยง่ายมาก แค่กดก๊อบปี้แล้ววาง ทำให้ข่าวปลอมแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เว็บไซต์ข่าวปลอมก็พยายามหาวิธีการ เช่น ใช้ URL ที่คล้ายกับสำนักข่าวใหญ่ๆ.

อ่านข่าว