โซเชียลวิจารณ์ภาพนักท่องเที่ยวโพสท่าเดินอยู่บนรั้วกำแพง "กู่เจ้าหลวง" สุสานเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ และ พระประยูรญาติ ด้านไกด์แนะติดป้ายเตือนให้ชัดเจน
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนหนึ่งได้โพสท่าเดินอยู่บนรั้วกำแพงของ "กู่เจ้าหลวง" ภายในวัดสวนดอก อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งต่อมามีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างมากนั้น
ล่าสุด วันที่ 1 ส.ค.62 จากการตรวจสอบพบว่า นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้ทำแฟนเพจและอินสตาแกรมขึ้นมาเพื่อไว้นำเสนอภาพการท่องเที่ยว ซึ่งภาพที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้นถูกโพสต์เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดสวนดอก บริเวณ "กู่เจ้าหลวง" พบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย โดยทางวัดได้ติดป้ายข้อห้ามและการปฏิบัติตนขณะเข้าเยี่ยมชมไว้บริเวณทางเข้า เพื่อเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ทำกิริยาที่ไม่เหมาะสม โดยมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

สำหรับ กู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ เป็นกู่ที่บรรจุอัฐิของเจ้าหลวงเชียงใหม่และพระญาติวงศ์ในสายสกุล แต่เดิมประดิษฐานบริเวณ "ข่วงเมรุ" หรือตลาดวโรรส ซึ่งเป็นสนามโล่งไว้ใช้เผาพระศพของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ถ้าเทียบกับกรุงเทพมหานคร ก็คือทุ่งพระเมรุ หรือสนามหลวงในปัจจุบัน เมื่อเผาแล้วจะสร้างกู่หรืออัฐิขึ้นในบริเวณนั้น ต่อมาได้มีการย้ายมารวมไว้ในที่แห่งเดียว ณ บริเวณวัดสวนดอก (พระอารามหลวง) โดยพระดำริของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เมื่อ พ.ศ.2452
...
โดยให้อัญเชิญรวบรวมพระอัฐิของ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ และพระประยูรญาติ มาประดิษฐานรวมกัน ณ ที่นี่ รวมทั้งได้ประทานทรัพย์ให้การทำนุบำรุงมาโดยตลอดพระชนม์ชีพ หลังจาก พระราชชายา เจ้าดารารัศมีสิ้นพระชนม์ ได้มีการแบ่งพระอัฐิของพระองค์มาประดิษฐานไว้ ณ กู่เจ้านายฝ่ายเหนือแห่งนี้ อีกส่วนหนึ่งแบ่งประดิษฐานไว้ในสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
ปัจจุบัน กู่เจ้านายฝ่ายเหนือแห่งนี้ ได้ถูกจดทะเบียนให้เป็นโบราณสถานสำคัญภายใต้การกำกับดูแลของกรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2478
นายเชี่ยวชาญ หัสดิเสวี ซึ่งเป็นไกด์นำเที่ยว เปิดเผยว่า ภาพที่มีการแชร์ไปในโลกโซเชียลนั้นเป็นภาพของนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ที่เดินทางกันมาเองโดยที่ไม่มีไกด์ ทำให้ยากต่อการดูแล และแนะนำการปฏิบัติตนในสถานที่ ซึ่งในมุมมองของไกด์นั้นถือว่าแย่มาก หากเป็นการท่องเที่ยวที่มีไกด์นำเที่ยว จะไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน อีกอย่างทางวัดก็ควรทำป้ายหลายภาษาเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าใจมากขึ้น.