สาวเจ้าของกระบะไฟเบรกกะพริบวิบวับ เลี้ยวกระชั้นชิดตัดหน้ารถจยย. 3 เด็กนักเรียนหญิง ส่งทนายความส่วนตัวเข้าเคลียร์ชดใช้ค่าเสียหาย เผยไม่รู้เกิดอุบัติเหตุ
จากกรณีการแชร์คลิปรถกระบะควันดำ ไฟเบรกกะพริบวิบวับ แต่ไม่เปิดไฟเลี้ยวเข้าซอย ตัดหน้าจยย.กระชั้นชิด เด็กเบรกไม่ทันชนท้ายเต็มๆ แถมคนขับกระบะหนีหาย พบเด็กอายุ 7 ขวบบาดเจ็บด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (กระบะไฟเบรกวิบวับ สุดใจดำ เลี้ยวตัดหน้าจยย.แต่ไม่ลงมาดูเด็ก 7 ขวบเจ็บ ,กระบะควันดำ ไฟเบรกกะพริบวิบวับ แต่เลี้ยวไม่ให้สัญญาณตัดหน้าจยย.เด็กเจ็บ)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.ค.62 นายสัญญา วิคยำเพิง ทนายความส่วนตัวของนางจุฑามาศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี คนขับรถกระบะคันก่อเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประกันภัยรถยนต์ เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายสัญญา ระบุว่า ตอนเกิดเหตุนางจุฑามาศ ไม่ทราบว่าขับรถกระบะชนรถจักรยานยนต์ของนักเรียนหญิง ตอนนั้นคิดว่ารถจักรยานยนต์ของนักเรียนหญิงขับตกไหล่ทาง จึงขับรถเข้าไปในซอยโดยไม่ได้จอดรถลงมาดู
กระทั้ง มีคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียล จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อให้ทางตำรวจติดตามคนขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

...
อย่างไรก็ตาม นางจุฑามาศ คนขับรถกระบะ ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ จึงได้มอบหมายให้ตนทำหน้าที่แทน พร้อมกับฝากคำขอโทษถึงผู้บาดเจ็บ รวมทั้งครอบครัวผู้บาดเจ็บ และเน้นย้ำให้ตนรับผิดชอบทุกอย่างให้กับผู้เสียหาย
สำหรับ การเจรจาตกลงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับพ่อผู้บาดเจ็บ และเด็กๆ ซึ่งสามารถตกลงกันได้ด้วยดี โดยทางบริษัทประกันภัยรถยนต์จะดำเนินการซ่อมรถจักรยานยนต์ให้กลับมาอยู่ในสภาพใช้งานตามปกติ พร้อมกับมอบเงินเป็นค่าทำขวัญจำนวน 10,000 บาท และรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน จนกว่าจะหายเป็นปกติ
โดยพ่อของเด็กๆ กล่าวว่า ตนยินยอมรับข้อเสนอ และความรับผิดชอบของคนขับรถกระบะ พร้อมฝากถึงคนขับรถกระบะให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการขับรถ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ลูกสาวทั้ง 3 คนของตนไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก พร้อมกับกล่าวขอบคุณพลเมืองดี ที่ลงไปช่วยเหลือลูกสาวของตน รวมทั้งเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่นำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล

พ.ต.ท.สุริยน แกมทอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เบื้องต้นทางคนขับรถกระบะ ได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว มาแสดงความรับผิดชอบ และตกลงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายแล้ว และสามารถตกลงกันด้วยดี จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนในทางคดีทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับคนขับรถกระบะคันก่อเหตุ ในข้อหาขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทำการเปรียบเทียบปรับ