โมโหหึงแทนเพื่อน

วันก่อนมีสาวน้อยนามสมมติว่าน้องเอ มาทำ counseling กับครูเคทด้วยปัญหาว่าพักนี้อารมณ์หงุดหงิดผิดปกติจนเพื่อนๆ ออกปากทัก เช่น เพื่อนร่วมกลุ่มคนหนึ่งไม่ช่วยทำรายงานกลุ่ม เธอรู้สึกหงุดหงิดมากที่หัวหน้ากลุ่มไม่ทำอะไร ปล่อยให้เพื่อนคนนั้นกินแรงคนอื่น นอกจากนี้ เวลาใครพูดหรือทำอะไรที่ไม่สมควร เธอก็จะรู้สึกหงุดหงิดไปกับการกระทำและคำพูดของคนอื่นอย่างออกนอกหน้า ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเธอเป็นคนสนุกสนานสบายๆ ไม่ใช่คนประเภทที่จะเข้าไปวุ่นวายจัดการเรื่องของคนอื่น จากความผิดปกติที่เจ้าตัวสังเกตเห็นเอง ทำให้เธอตัดสินใจเข้ามาพูดคุยกับครูเคท

เมื่อได้พูดคุยกันไปสักพัก เรื่องราวที่เธอรู้สึกว่าไม่ถูกต้องและยอมไม่ได้ก็คือ เรื่องที่เพื่อนสนิทของเธอ ในกลุ่มของเธอมีอยู่กันสามคน คือ ตัวเธอ (เอ) เพื่อนหญิง (บี) และเพื่อนชาย (ซี) ทั้งสามสนิทกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น คือ บีกับซี เริ่มสนิทกันมากขึ้นและคบหากันแบบแฟนหรือคนรู้ใจ แต่พวกเขาทั้งสามก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม และเอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นติ่งแต่อย่างใด จนวันหนึ่งมีสาวน้อย (ดี) เข้ามาตีสนิทกับซี และซีก็ดันชอบดีเสียด้วย ทำให้ บี รู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยนิสัยนางเอกของบี บีจึงได้แต่ร้องไห้แล้วก็ปรับทุกข์กับเอ เอซึ่งปกติก็ไม่ได้มีนิสัยระรานใคร กลับกลายเป็นเจ็บแค้นแทนบีเพื่อนรัก เธอมักจะบอกบีว่าอย่าไปยอม เราต้องลุยตีดีให้แตกกันไปข้างหนึ่ง และเมื่อนางเอกบีไม่ทำตาม ได้แต่นั่งเศร้า เอก็เลยพุ่งเป้าไปที่ซี คนกลาง ที่เธอบอกว่าเป็นผู้กระทำผิด เอจะหาโอกาสต่อว่าซีอยู่บ่อยๆ พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจนผู้คนรอบข้างต่างเห็นความผิดปกติ และบางคนก็คิดกันไปว่า สงสัยเอจะแอบหลงรักซี จึงโกรธแค้นซีมากกว่าบีเป็นแฟนซีตัวจริงเสียด้วยซ้ำ

พอได้ยินว่าคนอื่นมองเธออย่างไร เอก็ชักจะเสียศูนย์ และชักไม่แน่ใจว่าตัวเองอาจจะเป็นอย่างที่คนเขาพูดกันก็ได้ เธอได้ทบทวนความรู้สึกของเธอกับซีหลายครั้ง จนมั่นใจว่าเธอไม่ได้ชอบซีแบบแฟน ดังนั้นพฤติกรรมต่อต้านดี และต่อว่าซีของเธอนั้น ไม่ใช่เพราะหึงหวงหรืออิจฉาแน่นอน แต่เธอไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรทำให้เธอกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดกับทุกๆ เรื่องขนาดนั้น

แต่เมื่อได้พูดคุยกับเอลึกลงไปเรื่อยๆ เรากลับพบภาพทับซ้อนบางประการ คือ คุณพ่อของเธอแอบไปมีกิ๊ก คุณแม่ของเธอเป็นหญิงแกร่ง ที่อดทนทุกอย่างเพื่อประคับประคองครอบครัว แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดคุณพ่อก็ตัดสินใจทิ้งคุณแม่และเธอไปอยู่กินกับกิ๊ก แต่คุณพ่อก็พยายามที่จะทำหน้าที่พ่อที่ดี ยังไปมาหาสู่กับเธออยู่สม่ำเสมอ แต่บรรยากาศไม่เหมือนเดิม เธอพยายามที่จะชวนทั้งพ่อและแม่ให้ทำกิจกรรมครอบครัวร่วมกันเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอก็รู้ว่าไม่เหมือนเดิม ดังนั้น ภาพทับซ้อน ที่เธอค่อยๆ มองเห็นผ่านเหตุการณ์ของ บีกับซีเพื่อนสนิท และดี มือที่สาม มันคือความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาของครอบครัวของเธอต่างหาก แต่การแก้ปัญหาของครอบครัวเธอนั้นไม่มีอะไรดีขึ้น ความพยายามที่ไม่ประสบความสำเร็จนี้จึงกลายมาเป็นพลังขับให้เธอหงุดหงิดและพยายามที่จะแก้ไขปัญหาของคนอื่นๆ แทนโดยไม่รู้ตัวค่ะ เมื่อเธอได้เข้าใจตัวเองแล้ว และได้มองปัญหาครอบครัวของเธอในมุมใหม่ เธอก็ค่อยๆ เข้าใจว่าอะไรทำให้เธอหงุดหงิดกับเพื่อนๆ ของเธอ และเริ่มเข้าใจว่าแม้ลักษณะปัญหาอาจคล้ายคลึงกัน แต่คนเรามีเหตุและผลในการกระทำที่ต่างกัน เราไม่สามารถเปลี่ยนใครๆ ให้ได้ดั่งใจเรา ดังนั้น เธอจึงทำได้เพียงยอมรับการตัดสินใจของคุณพ่อคุณแม่ หรือแม้แต่ของ บี ซี ดี และหัดมองปัญหาในมุมต่างๆ กันโดยไม่ตัดสินคนอื่น ซึ่งทำให้เธอมีความสุขขึ้นมาก

ใครมีปัญหา ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่รู้จะทำอะไรในอนาคต ญาติพี่น้องติดกลุ่มลัทธิ ปัญหาครอบครัว ความสัมพันธ์ การทำงาน ติดโซเชียล ติดเกม panic และ phobia มารับคำปรึกษากับครูเคทได้ที่ KruKate Counseling Center ต้องการนัดคิว โทร. 0814581165 หรือ เข้าไปฝากคำถามและแชร์ประสบการณ์ในแฟนเพจ www.facebook.com/kateinspirer และ YouTube channels: Kate Inspirer ได้นะคะ