จากที่มีข่าวการรับประทานแหนมดิบที่ก่อให้เกิดโรคหูดับหรือโรคติดเชื้อสเตรฟโตคอกคัส ซูอิส เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคจนถึงขั้นเสียชีวิต ทำให้คนไม่กล้ารับประทานแหนมดิบ แต่ปัจจุบันมีนวัตกรรมแหนมฉายรังสี ที่สามารถรับประทานสดๆ ได้เมื่อนำมาผ่านกระบวนการฉายรังสีแล้ว


ทั้งนี้ ศูนย์ฉายรังสี สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)หรือสทน.เป็นศูนย์ให้บริการฉายรังสีแกมมาแก่บุคคลทั่วไป โดยผลิตภัณฑ์ที่สามารถฉายรังสีนั้นมีหลากหลายชนิด เช่น สมุนไพร เครื่องเทศ ผลิตผลทางการเกษตร อาหารแปรรูป อาหารสัตว์ ผลไม้ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เป็นต้น โดยทั่วไปมีวัตถุประสงค์ในการฉายรังสีดังนี้คือ ยับยั้งการงอก (ปริมาณรังสีดูดกลืนสูงสุดไม่เกิน 1 กิโลเกรย์), ชะลอการสุก (ปริมาณรังสีดูดกลืนสูงสุดไม่เกิน 2 กิโลเกรย์), ควบคุมการแพร่พันธุ์ของแมลง (ปริมาณรังสีดูดกลืนสูงสุดไม่เกิน 2 กิโลเกรย์) , ลดปริมาณปรสิต (ปริมาณรังสีดูดกลืนสูงสุดไม่เกิน 4 กิโลเกรย์) , ยืดอายุการเก็บรักษา (ปริมาณรังสีดูดกลืนสูงสุดไม่เกิน 7 กิโลเกรย์) , ลดปริมาณจุลินทรีย์และจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค (ปริมาณรังสีดูดกลืน 2-20 กิโลเกรย์) *กรณีเป็นอาหารปริมาณรังสีดูดกลืนสูงสุดต้องไม่เกิน 10 กิโลเกรย์การปลอดเชื้อ (สเตอริไลเซชัน) (ปริมาณรังสีดูดกลืน 15 – 50 กิโลเกรย์)

...

โดยรังสีแกมมานั้นเป็นรังสีประเภทหนึ่งที่ได้จากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสี มีลักษณะเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ และพยาธิที่อยู่ในอาหารได้โดยไม่ก่อให้เกิดสารกัมมันตรังสีในวัตถุที่มันวิ่งผ่านไป นอกจากจะสามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคและพยาธิได้แล้ว ยังไม่ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย

นายภาคภูมิ หอมสุวรรณ CEO บริษัท ไทยอินโนฟู้ด จำกัด กล่าวว่า คนไทยนิยมบริโภคแหนมกันมาช้านาน แต่จากกระแสรักษ์สุขภาพที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องทำให้เราต้องใช้นวัตกรรมใหม่ๆ มาตอบสนองผู้บริโภค ซึ่ง "แหนมตุ้มจิ๋วพร้อมทาน ตราสุทธิลักษณ์" เป็นแหนมที่ผ่านการฉายรังสีแกมมา โดยนำนวัตกรรมการฉายรังสีมาใช้เป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในประเทศไทย จากความร่วมมือกับศูนย์ฉายรังสี สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างเป็นสากล เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับคนยุคใหม่ ที่ต้องการบริโภคแหนมไปพร้อมๆ กับความมั่นใจในด้านความสะอาดและปลอดภัย

รวมทั้งได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จากแหนมตุ้มจิ๋วแบบดั้งเดิมที่อยู่คู่มากับ "หนังยาง" หรือที่เราเรียกกันติดหูว่า "ยางรัดแกง" วัสดุจากยางพาราที่ใช้เวลาในการย่อยสลายหลายสิบปี ซึ่ง “หนังยาง” ที่ใช้รัดแหนมตุ้มจิ๋วแบบดั้งเดิมนั้นเป็นส่วนสำคัญที่อาจทำให้แหนมมีรสชาติขม เพราะหนังยางไปสัมผัสกับถุงพลาสติกและสัมผัสริมฝีปากเวลารับประทาน โดยได้พัฒนาแพคเกจในรูปแบบใหม่ที่ขนาดพอดีกับแหนมตุ้มจิ๋ว แกะง่าย ไม่เปื้อนมือ และดูทันสมัย แก้ปัญหาเรื่องการปนเปื้อนที่อาจทำให้แหนมเสียรสชาติได้อย่างครบถ้วน รวมถึงช่วยลดปริมาณขยะจากหนังยาง และถุงพลาสติกที่เหลือจากการตัดมุม ซึ่งเป็นวัสดุที่ย่อยสลายยาก ช่วยลดขยะที่ไม่จำเป็น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย มีจำหน่ายแล้วที่ 7-Eleven, Tops และ Family Mart และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป.