คอกาแฟถูกใจสิ่งนี้ "กาแฟขี้ควาย" ไอเดียคนไทย รสชาติหอมนุ่ม โด่งดังระดับโลก ต่างชาติแห่เจรจาขอเป็นตัวแทนขายกิโลละหมื่น ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาจารย์สุรสิทธิ์ ปุสุรินทร์คำ หัวหน้าแผนกเทคโนโลยีศิลปกรรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย กล่าวถึงความเป็นมาของ "กาแฟขี้ควาย" (Buffalo Coffee) ที่คิดค้นทดลองมา 7 ปี อย่างอุตสาหะอดทน กระทั่งประสบความสำเร็จเป็นกาแฟที่มีรสชาติแตกต่าง เกิดจากความคิดครั้งแรกต้องการเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชนโอทอป เริ่มจากการไปดูพืชเศรษฐกิจ สับปะรดภูแล นางแล ชา-กาแฟที่ดอยวาวี พบมีการทำ กาแฟขี้ชะมด, กาแฟขี้ช้าง แม้ว่าราคาจะสูงถึง กก.ละ 3-5 หมื่นบาท ก็ยังเป็นที่นิยมของคอกาแฟ

จากนั้นเมื่อหันมาดูที่หนองหล่ม ปางเลี้ยงควาย บ.ห้วยน้ำราก ต.จันจว้า อ.แม่จัน เป็นหมู่บ้านทำการเกษตรแบบดั้งเดิม มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ ควายที่เลี้ยงอาศัยหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เป็นแหล่งหากิน จึงเกิดจุดประกายความคิด ควายก็มีส่วนดีกินแต่ผักแต่หญ้า จึงชักชวนชาวบ้านเจ้าของควายมาร่วมทดลองนำเมล็ดกาแฟจากดอยช้างมาผสมฝักจามจุรีกากน้ำตาล หมักให้มีรสหวานๆ อมเปรี้ยว

เมื่อควายกินเม็ดกาแฟเข้าท้องควายไป 2 วัน จะถูกย่อยสลายขับถ่ายออกมา จึงนำปลายข้าวผสมขี้ควายให้ไก่จิกกิน เหลือเม็ดกาแฟ ก็จ้างชาวบ้านเก็บ กก.ละ 100 บาท เอามาแกะเปลือกล้างเมือก นำไปผึ่งแห้งในสวนเกษตรอินทรีย์เพื่อดูดซับกลิ่นและรสชาติ ก่อนนำไปคั่วอย่างประณีตให้มีความหอมละมุนเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ส่วนค่าจ้างชาวบ้านแยกเม็ดกาแฟสูงถึง กก. 100 บาท ถือว่ายุติธรรมดี เป็นการช่วย เหลือเพิ่มรายได้ชาวบ้านอีกทางหนึ่ง

...

สำหรับเส้นทาง 7 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อเริ่มต้นใหม่ๆ ไปพูดกับใครว่าเป็น "กาแฟขี้ควาย" มีแต่คนร้องยี้ ไม่ให้ความสนใจ จนเกิดความท้อใจ จากที่ไม่ได้ตั้งใจทำเป็นธุรกิจ ก็ต้องมาปรับตัวเดินหน้าต่อตามศาสตร์พระราชา จนมาถึงตอนนี้นักธุรกิจจากประเทศเบลเยียม, ไต้หวัน มาเจรจาเป็นตัวแทนนำกาแฟขี้ควายไปขายต่อ ใครจะชิมไปได้ที่ปางควาย บ.ห้วยน้ำราก อ.แม่จัน จ.เชียงราย.