เปิดใจภรรยา "จ.ส.อ.สมชาย" หรือ "ครูหนุ่ม" เผยภูมิใจในตัวสามี เชื่อตัดสินใจดีแล้ว ที่แย่งระเบิดจากมือลูกศิษย์ ขณะที่ลูกสาววัย 11 ปี ปลอบแม่ อย่าเสียใจ พ่อเป็นคนดี
จากกรณี จ.ส.อ.สมชาย ธนบัตร หรือ “ครูหนุ่ม” อายุ 32 ครูฝึกนักเรียนนายสิบสถานีลูกระเบิดขว้าง ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนรัตน์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เสียชีวิต หลังเข้าไปช่วยเหลือลูกศิษย์จากการฝึก ขณะถอดสลักระเบิด แต่ยังไม่ขว้างออกไปในช่วงเวลา 5 วินาที ที่ระเบิดจะทำงาน จนครูฝึกต้องเข้าไปชิงระเบิดออกมา เพื่อขว้างออกไป แต่ไม่ทัน ระเบิดทำงานก่อน จนตัวเองเสียชีวิต ส่วนลูกศิษย์มือขวาขาดบาดเจ็บสาหัส ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (สดุดี "จ.ส.อ.สมชาย ธนบัตร" แย่งระเบิดจากมือศิษย์ เสียชีวิตระหว่างซ้อม)
ต่อมาเวลา 15.30 น. วันที่ 5 มิ.ย.62 ที่สำนักสงฆ์ทุ่งช้างเผือก หมู่ที่ 1 ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นายวิบูลย์ รัตนภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร, พลตรีพรชัย อินทนู ผบ.มทบ.44 เป็นตัวแทนนำพวงหรีดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาวางหน้าหีบศพ จ.ส.อ.สมชาย ธนบัตร ที่คลุมด้วยธงชาติไทย โดยมี นางฎารัตน์ ธนบัตร อายุ 35 ปี เด็กหญิงวริศรา ธนบัตร อายุ 11 ปี ภรรยาและลูกสาวของ จ.ส.อ.สมชาย พร้อมกับ นางแต๊ม บูชาเทียน อายุ 78 ปี แม่บุญธรรม ให้การต้อนรับ
หลังเคารพศพและนำพวงหรีดวางหน้าหีบศพ นายวิบูลย์ และ พลตรีพรชัย ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับ นางฎารัตน์ และเด็กหญิงวริศรา พร้อมกับแสดงความเสียใจและพูดคุยให้กำลังใจต่อครอบครัวที่ต้องสูญเสียเสาหลักไป ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้องแล้วชาวบ้านที่มาร่วมงาน
ต่อมา นางชฎารัตน์ เปิดใจหลังสูญเสียสามีว่า สามีเป็นคนดีมาก รักครอบครัวมาก เราสามคนพ่อแม่ลูกพักอยู่ในบ้านพักค่ายธนรัตน์ ตนเป็นแม่บ้าน และมีอาชีพเสริมขายสินค้าส่งให้กับร้านสวัสดิการทหาร ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้านพัก ทราบข่าวจากเพื่อนๆ ทหารโทรศัพท์มาบอกว่า สามีเกิดอุบัติเหตุให้ไปที่โรงพยาบาล ในช่วงนั้นตนคิดไปในทางที่ดีตลอดว่า ไม่เป็นอะไรมาก เมื่อไปถึงสามีเสียชีวิตแล้ว และทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวสามีมาก ที่ผ่านมาเราสามคนแม่ลูกจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เขาเป็นคนไม่โอ้อวดทะเยอทะยาน จะอยู่แบบประหยัด เป็นคนมุ่งมั่น มีวินัยสูง ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของทหาร ตอนนี้ไม่มีเสาหลักของครอบครัวแล้ว ตนกับลูกต้องอยู่ให้ได้
...
นางชฎารัตน์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่า สามีคิดดีแล้ว จึงทำลงไปแบบนั้น เพราะเขาเป็นคนที่มีสติดีมาก ส่วนลูกสาววัย 11 ปี เป็นคนเข้มแข็งมาก เพราะเขาเป็นลูกทหาร ที่พ่อเขาจะสอนให้เข้มแข็งตลอด ทั้งยังพูดปลอบใจตนตลอด ว่าแม่ไม่ต้องเสียใจนะ พ่อเป็นคนเก่ง
ขณะที่ เด็กหญิงวริศรา เปิดเผยว่า ตนรักและภูมิใจในตัวพ่อมาก พ่อจะสอนให้เข้มแข็ง ตนจะตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีที่สุด และอยากเป็นทหารเหมือนพ่อ และตนบอกกับแม่ว่า "แม่อย่าเสียใจนะ พ่อเป็นคนดี"