ตร.ปราบปรามยาเสพติด และ ป.ป.ส. แถลงจับกุมเครือข่ายการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถ พร้อมของกลางเป็น ยาไอซ์ 1.4 ตัน และ ยาเค 91 กก.โดย จนท.จะเร่งขยายผลไปถึงตัวการที่อยู่เบื้องหลัง...


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 มิ.ย.2562 ชั้น 1 อาคาร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ดินแดง นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาวันต์ ชูศักดิ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 5 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการกองทัพไทย และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ แถลงผลการบูรณาการปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด สามารถจับกุมตัว นายสุวิทย์ พรมโอ่น หรือ อ๊อฟ อายุ 26 ปี พักบ้านย่าน ซอยสุขสวัสดิ์ 31/1 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม. พร้อมตรวจยึดของกลางยาเสพติด ไอซ์ 1,495 กิโลกรัม เคตามีน 91 กิโลกรัม รถบรรทุก 6 ล้อ 2 คัน รถยนต์ 4 คัน และเครื่องบรรจุยาเสพติด 1 เครื่อง

นายนิยม กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวน หาการข่าวจนกระทั่งทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) มาจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงจะใช้พื้นที่ปริมณฑลในการพักเก็บและบรรจุก่อนส่งต่อยังต่างประเทศ ทั้งนี้ มีการสืบสวนมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งได้รับข้อมูลจากสายด่วน 1386 ถึงพฤติกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตรงกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้รับ จนเป็นที่มาของการเข้าจับกุมดังกล่าว

...

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม มีประชาชนแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนสำนักงาน ป.ป.ส. 1386 ว่าผู้ต้องหาร่วมกับพวกเปิดโกดังย่านปทุมธานี ชาวบ้าน ม.2 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี เพื่อเก็บพักคอยยาเสพติดก่อนส่งออกไปต่างประเทศ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม จนกระทั่งวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 02.00 น. พบ นายสุวิทย์ และ นายหมู (ที่หลบหนี) ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟรีด สีขาว หมายเลขทะเบียน ขจ 2715 ชลบุรี เข้ามาในโกดังเป็นเหตุให้ต้องสงสัยว่าจะเข้าไปขนยาเสพติด เมื่อรถคันดังกล่าวขับออกมาจากโกดังเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้นรถ แต่ นายหมู ซึ่งเป็นคนขับไหวตัวทันหลบหนีไปได้

จากการตรวจค้นรถพบของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 4 กล่อง กล่องละ 25 ก้อน รวม 100 กิโลกรัม และเคตามีน 2 กล่องน้ำหนักรวม 91 กิโลกรัม จากนั้นได้เข้าตรวจค้นด้านในโกดังหมายเลข 7 พบไอซ์ซุกซ่อนในช่องลับพื้นรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 72-3007 นครปฐม น้ำหนัก 1,395 กิโลกรัม ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-3006 นครปฐม พบว่ามีการทำช่องลับบริเวณพื้นกระบะด้านท้ายเช่นกัน แต่ไม่พบยาเสพติด ซึ่งเชื่อว่าอาจจะมีการนำออกจากรถ และส่งจำหน่ายไปก่อนแล้ว จากข้อมูลทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการเช่าโกดังแห่งนี้ไว้ก่อนที่จะนำยาเสพติดมาเก็บเพื่อรอกระจายไปยังที่ต่างๆ ประมาณ 1 เดือน 

ด้าน พล.ต.ต.ภาณุเดช เปิดเผยว่า เครือข่ายนี้เป็นเครือข่ายที่ถูกออกหมายจับไปแล้วในพื้นที่ ภ.5 ที่ผ่านมากลุ่มผู้ต้องหาเคยเปิดโกดังลักษณะนี้มาแล้วใน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คนพร้อมของกลาง และยังเป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ต้องหาที่นำรถพยาบาลมาขนยาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน ของกลางยาบ้า 5 แสนเม็ด จับกุมไปเมื่อเดือน ก.ย. 2561 ท้องที่ สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม เป็นเพียงผู้มารับของออกจากสถานที่เก็บไปส่งต่อเท่านั้น ยังไม่ใช่ตัวการใหญ่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามขยายผลเครือข่ายที่เป็นตัวการที่ใหญ่กว่านี้

นายนิยม กล่าวว่า กล่าวอีกว่า ยาลอตนี้น่าจะถูกนำพักไว้เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 (มาเลเชีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี) ทั้งนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อยังเครือข่าย รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง และจะตรวจยึดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวเนื่องกับการค้ายาเสพติดเพื่อตรวจสอบตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดสำหรับมูลค่าของไอซ์ที่จับกุมได้นั้น ตนถือว่าเป็นของที่ไม่มีมูลค่า เพราะถึงยังไงก็ต้องถูกทำลายทิ้งทั้งหมด ในวันที่ 26 มิ.ย. ที่จะถึงนี้จะมีการทำลายยาเสพติดที่จับมาก่อนหน้านี้ด้วย การปฏิบัติการในครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอย่างผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่ง บช.ปส. ดำเนินคดีและขยายผลต่อไป.