อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เงียบ ญาติเด็กหญิงวัย 5 ขวบร้องเพจทนายดัง หลังหลานสาวถูกเพื่อนร่วมห้องวัยเดียวกัน กระทำชำเราในห้องน้ำคาโรงเรียน ครู ผอ.บอกปัด ปล่อยเรื่องเงียบ

แฟนเพจเฟซบุ๊ก เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ปู่ของเด็กหญิงคนหนึ่งขอร้องเรียนเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากหลานสาวอายุเพียง 5 ขวบ กำลังเรียนอยู่อนุบาล 3 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่จังหวัดอุบลราชธานี

โดยวันที่ 20 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา หลานสาวได้เข้าห้องน้ำ ต่อมาย่าได้เดินเข้าไปใช้ต่อ แต่ก็แปลกใจคิดว่าใครมาทำสกปรกเพราะเห็นเลือดในห้องน้ำ โดยปู่ได้บอกว่า เห็นหลานเข้าไปก่อนหน้านี้ ปู่และย่าจึงเดินตามไปดูหลาน พบว่า นอนซม และมีเลือดติดขา และไหลออกจากอวัยวะเพศ

หลังจากนั้น ปู่และย่าจึงพาเด็กไปโรงพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถามเด็กจนพอรู้ว่า ถูกนักเรียนชาย 2 คน เรียนอยู่ห้องเดียวกัน เอาหลอดแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศ อีกคนเข้ามาข้างหลังได้เอางู (คาดว่าอวัยวะเพศชาย) ใส่เข้ามาจนเลือดไหล

ต่อมาวันที่ 21 ธ.ค.62 ปู่ได้ไปเล่าให้รอง ผอ.โรงเรียนฟังที่บ้าน เพราะรู้จักกันเขาก็ตกใจและบอกว่าดีแล้วที่ยังไม่ได้แจ้งความ และนัดให้พาเด็กมา และไปคุยกันที่โรงเรียน ผอ.ก็รับปากว่าจะจัดการให้

...

ช่วงสายของวันเดียวกัน พวกญาติก็เตรียมตัวเข้าไปคุยกับ ผอ. แต่ไม่มีสายตาที่เอื้อเฟื้อให้เลย เขามองหลานเป็นผู้ร้ายที่ทำให้โรงเรียนเสียหาย ส่วน ผอ.ที่ขอพบก็ไม่ได้พบ ครูแจ้งว่าต้องไปทำธุระ แต่ผู้ปกครองเห็นว่าผอ.ไปนั่งทานอาหารร้านหน้าโรงเรียนอยู่ตั้งนาน

อย่างไรก็ตาม พวกญาติๆ จึงไปแจ้งความเพื่อจะได้มีใบตรวจจากแพทย์ว่าเด็กไม่ได้ใส่ร้ายโรงเรียน ไม่ได้ใส่ร้ายเด็กนักเรียนชาย พอไปถึงท่านร้อยเวร ท่านดีมาก ท่านเห็นเด็กมีเลือดไหลออกมา จึงรีบให้พาเด็กไปหาหมอ และทำใบส่งตรวจให้ ซึ่งขามีเลือดออกตลอด ต้องใส่ผ้าอนามัยไว้ และได้รับความเจ็บปวดมาก

เมื่อถึงโรงพยาบาล หมอตรวจโดยละเอียด รวมทั้งท่านได้สอบถามเด็กเป็นการส่วนตัว และได้แจ้งให้ทางผู้ปกครองทราบว่าบรอยบวมแดงๆ รอบช่องคลอด สงสัยว่ามีการร่วมประเวณี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ซักถามเด็กจนทราบข้อเท็จจริง 

ตกเย็นวันนั้น คณะครู และ ผอ. ปฏิเสธว่าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นในโรงเรียน น่าจะเกิดจากหลานเล่นเครื่องเล่น หรือปั่นจักรยานจนทำให้มีเลือดออก และให้ทำการย้ายเด็กไปเรียนที่โรงเรียนอื่น ตนขอยืนยันว่าเขาพูดจริง มีพยาน

โดยญาติได้โต้เถียงไปว่าไม่ย้าย เพราะเด็กเป็นผู้ถูกกระทำ ถ้าจะย้ายควรย้ายผู้ที่ทำไปรักษาทางจิตมากกว่า ตอนก่อนกลับทางครูได้ให้เบอร์ติดต่อไว้ หากเด็กเจ็บหรือเป็นอะไร ให้โทรหา

"สรุปนับจากวันเกิดเหุตจนวันนี้ 5 เดือนที่ผ่านมา ทางผู้ปกครอง หรือเด็กหญิงอันเป็นผู้เสียหายยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ หรือเยียวยาจากพ่อแม่เด็กผู้กระทำเลย รวมทั้งทางโรงเรียน แม้แต่บาทเดียว การเดินทางการรักษาเด็กนับจากเกิดเหตุจนวันนี้ เดินทางไปกลับโดยผู้ปกครอง การรักษาผู้ปกครองจ่ายเอง เพราะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จึงได้รับความทุกข์ใจอย่างมาก วอนทนายรณณรงค์ช่วยให้ความเป็นธรรมกับหลานผมด้วย ขอบคุณแทนเด็กหญิงตัวน้อยๆ ด้วยครับ"