รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช นัดเคลียร์ญาติผู้ป่วย หลังพาพ่อป่วยส่งโรงพยาบาล กลางดึก เจอพนักงานนั่งเล่นมือถือบนรถเข็น พอบอกขอรถหน่อย กลับบอกให้เลือกเอา และไม่เข้ามาช่วยเหลือ ...

จากกรณีโซเชียลมีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่โพสต์ลงในเพจพิษณุโลกบ้านเราว่า "ร้องเรียนกับใครได้บ้าง เดี๋ยวนี้มีนโยบายจ้างพนักงานมานั่งเล่นเกมแบบนี้แล้วเหรอ...ขนาดพูดบอก ขอรถเข็นหน่อยค่ะ พูดตอบกลับมาได้ เลือกเอาเลย...แทนที่จะมาช่วยยกคนป่วยสักคนก็ไม่มีมาช่วย สุดยอดมากกกก #โรงบาลพุทธชินราช"

ซึ่งจากภาพ เป็นพนักงานสวมเสื้อสีฟ้า กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์บนเก้าอี้รถเข็นผู้ป่วยอยู่ ซึ่งมีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากถึงความไม่เหมาะสม

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ทราบว่า เมื่อช่วงเวลาประมา 23.00 น. วันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนและสามีได้พาบิดาที่มีอาการป่วยเป็นโรคประจำตัว ไปส่งให้แพทย์รักษาเนื่องจากมีอาการกำเริบ พอไปถึงโรงพยาบาล ได้แจ้งกับพนักงานเปลที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ว่า ขอเปลหน่อย แต่พนักงานบอกว่า เปลมีตั้งหลายอันเลือกเอาเลย แล้วนั่งเล่นโทรศัพท์ต่อ โดยไม่สนใจพวกตน สามีตนต้องอุ้มบิดาขึ้นเปลเอง จากนั้นจึงมีพนักงานผู้หญิงมาช่วยเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ตนได้ถ่ายภาพพนักงานเปลไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเจอพฤติกรรมแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว เพราะตนต้องนำบิดาส่งที่โรงพยาบาลเป็นประจำ หากมีอาการกำเริบ

ล่าสุดเวลา 12.00 น. วันนี้ ทางรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ได้เรียกตนไปพบพร้อมกับหัวหน้าพนักงานเปล ก่อนที่จะแจ้งให้ตนทราบว่า ทางโรงพยาบาลได้ลงโทษพนักงานทั้ง 3 คน ด้วยการว่ากล่าวตักเตือนแล้ว และห้ามเล่นโทรศัพท์ในขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในระยะเวลา 3 เดือนจากนี้ หากกระทำซ้ำเช่นเดิมก็จะมีการลงโทษเพิ่มขึ้นตามกฎระเบียบต่อไป

...

ผู้โพสต์ข้อความยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์อีกว่า ตนยังติดใจที่มีพนักงานเปลคนหนึ่งที่คอมเมนต์พูดคุยกับเพื่อนว่า การที่ตนออกมาโพสต์ เป็นข้อความที่เกินจริง และว่าหากคนไข้อาการแย่ ทำไมต้องขอรถ และรถมีตั้งเยอะ ทำไมจะเลือกเอาคันที่พนักงานนั่ง ซึ่งเมื่อสอบถามกับรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล ก็ยอมรับว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว เป็นพนักงานเปลจริง แต่ไม่ใช่พนักงานเปลทั้ง 3 คน ที่ตนถ่ายรูปไว้ จึงเกรงว่า บิดาที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกอายุรกรรม จะไม่ปลอดภัย ทางรองผู้อำนวยการ จึงเรียกหัวหน้าตึกอายุรกรรมมาพบ และรับรองกับตนว่าจะดูแลบิดาเป็นอย่างดีที่สุด

นอกจากนี้ ผู้โพสต์ข้อความยังได้เปิดเผยอีกว่า ตนอยากให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงทางเพจของโรงพยาบาลว่า มีการดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง เพื่อให้สังคมได้รับรู้ หากเป็นไปได้ก็อยากให้แถลงการณ์กับสื่อมวลชนด้วย.