คุณแม่โพสต์อ้างลูกสาว 7 ขวบ ถูกเพื่อนแกล้งให้ดื่มน้ำร้อน จนทำให้ลิ้นพอง แถมไม่ได้แกล้งครั้งแรก คาใจ ทำไมโรงเรียนไม่แจ้งครอบครัวคู่กรณีให้รับทราบ พรุ่งนี้ เตรียมพูดคุยต่อหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคุณแม่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เปิดเผยเรื่องราวของลูกสาววัย 7 ขวบ ที่เธออ้างว่าลูกสาวถูกแกล้งจากเพื่อนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา หลังลูกสาวกลับมาจากโรงเรียนเล่าให้ฟังว่าถูกเพื่อนผู้หญิงแกล้ง โดยการแอบนำกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิของลูกใส่น้ำร้อนแล้วเอามาให้ดื่มทำให้ลูกสาวปากพองลิ้นพอง ครูต้องพาไปห้องพยาบาล จนวันนี้เมื่อช่วงเวลา 10.27 น. ที่คุณแม่โพสต์ลิ้นลูกสาวก็ยังพองอยู่

คุณแม่ถามลูกสาวหลายครั้งว่าไปแกล้งเพื่อนก่อนหรือไม่ ซึ่งลูกสาวก็ยืนยันคำตอบว่าไม่ได้แกล้ง ส่วนเพื่อนที่แกล้งคุณครูประจำชั้นทำโทษด้วยการให้ยืนนอกห้องเป็นเวลา 10 นาที ซึ่งคุณแม่รายนี้รู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผล เด็กอาจจะไม่หลาบจำและเรียนรู้จากการกระทำผิดนี้ อีกทั้งหลังถูกทำโทษเด็กคนนี้ยังทำท่าทางใส่ลูกสาวคล้ายกับว่าจะเอาคืน

คุณแม่รายนี้ได้ติดต่อไปยังครอบครัวของเด็กคู่กรณี จึงรู้ว่าคุณครูไม่ได้แจ้งต่อครอบครัวของฝ่ายนั้นว่าลูกทำอะไร โดยคุณแม่ของเด็กหญิงคู่กรณีสอบถามลูกของตัวเองเล่าแค่ว่าเพื่อนโดนน้ำร้อนลวกปากแต่ไม่ได้บอกว่าตัวเองทำ พอคุณแม่ซักไซ้เลยบอกว่าเพื่อนแกล้งก่อน คุณแม่ที่โพสต์เรื่องราวนี้จึงคาดคั้นลูกสาวอีกรอบก็ได้รับคำตอบเดิมว่าไม่ได้ทำ และวันที่เกิดเหตุลูกสาวก็ไปเรียนเพียงครึ่งวันเพราะเธอต้องรับไปทำธุระต่อ พร้อมทั้งมองว่าทางโรงเรียนไม่มีมาตรการจัดการกับเรื่องการถูกเหยียดหรือการถูกรังแกในโรงเรียน และลูกสาวของเธอถูกเพื่อนคนนี้แกล้งมาแล้วหลายครั้ง เคยร้องเรียนไปที่โรงเรียนและได้คำตอบว่าจะทำการสอบสวนแล้วติดต่อกลับ แต่ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับเลย

...

ล่าสุด ผู้โพสต์เปิดเผยกับทีมข่าวออนไลน์ว่าวันนี้ช่วงเช้าได้เข้าไปคุยกับครูใหญ่ โดยบอกว่าจะคุยกับเด็กและติดต่อกลับ แต่รอทั้งวันก็ไม่ได้รับการติดต่อ หลังเลิกเรียนจึงรับลูกสาวไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ซึ่งตำรวจได้ทำเรื่องส่งตัวเพื่อให้ลูกสาวไปตรวจร่างกาย อีกทั้งทราบวันพรุ่งนี้ทางโรงเรียนมีจดหมายเชิญผู้ปกครองคู่กรณีมาพบเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นแต่กลับไม่แจ้งทางเธอ จึงให้ตำรวจช่วยพูดให้เธอได้เข้าพูดคุยกับคู่กรณีด้วย และหากยังไม่เป็นที่พอใจก็ให้นำเรื่องไปยังกระทรวงศึกษาธิการ

“คุยกับลูกมาประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว แต่ลูกไม่อยากย้ายห้องและไม่อยากย้ายโรงเรียน เพราะเกิดปัญหานี้มา 1 ปีกว่าแล้ว เป็นปัญหาซ้ำซาก โรงเรียนไม่ได้จัดการอย่างเด็ดขาด เราคิดว่าเป็นเรื่องในโรงเรียน ก็ให้เกียรติโรงเรียนจัดการปัญหา เราไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวจนหลังๆ เริ่มจะรุนแรงขึ้น ปกติก็เจอผู้ปกครองของเพื่อนลูกสาวเป็นประจำเวลามารับลูก ก่อนหน้านี้ก็เคยคุยกับเขาถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เขาก็ให้เหตุผลว่าลูกเราไปแกล้งลูกเขาก่อน ซึ่งพ่อแม่ก็ต้องเข้าข้างลูกตัวเองอยู่แล้ว เราก็ไม่รู้ว่าลูกเราหรือเขาโกหก แต่ครั้งนี้น้องนั่งในห้องเรียนปกติแล้วเพื่อนคนนี้ก็เอาน้ำร้อนมาให้กิน และไม่ได้มีการทะเลาะกันก่อนหน้านี้”


ทั้งนี้ ในวันรุ่งขึ้นจะถามทางโรงเรียนถึงเรื่องกล้องวงจรปิดในห้องเรียนและบริเวณโรงเรียนด้วยเพื่อดูพฤติกรรมของลูกและเพื่อนคนนี้ รวมทั้งจะถามเรื่องการที่เด็กเข้าถึงน้ำร้อนที่เป็นอันตรายได้มากขนาดนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม คงต้องรอทางโรงเรียนและผู้ปกครองอีกฝ่ายชี้แจงในเรื่องดังกล่าวด้วย หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.