อาจารย์รับ นักเรียนจิตอาสา ซึ่งเป็นสาวประเภทสองกังวล ห่วงรำหน้าไฟ ทำคนตายไม่ได้ขึ้นสวรรค์ อธิบาย เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเวรกรรม ด้านเจ้าอาวาสเผยเรื่องการรำหน้าไฟ ไม่มีความเชื่อแบบนั้น...
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งไลฟ์เฟซบุ๊กการรำหน้าไฟในงานศพ กลับเจอพิธีกรชายพูดขัด อ้างเรื่องบอกเล่า ห้ามกะเทยรำหน้าไฟ เพราะคนตายจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ชาวเน็ตฉะเหยียดเพศสภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kaweesak Phaengdan ถ่ายทอดสดการรำหน้าไฟ พร้อมตั้งคำถามว่า "อยากรู้ว่าเอากะเทยรำหน้าไฟ คนที่ตายไม่ได้ขึ้นสวรรค์จริงหรอ มันเกี่ยวกันด้วยหรอ ไขข้อสงสัยให้ด้วย #พิธีกรบอกไว้ว่าถ้าเอากะเทยรำหน้าไฟผู้ตายจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์" จนกระทั่งมีชาวเน็ตออกมาแสดงความเห็นว่า เป็นการเหยียดเพศสภาพ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว
จากนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านขีหนองจิก ต.หนองซอน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เพื่อพบกับ นายกวีศักดิ์ แพงดาน ครูอัตราจ้าง ซึ่งเป็นผู้โพสต์คลิปดังกล่าว โดย นายกวีศักดิ์ เผยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่วัดจันทราวาส ต.หนองกุง อ.ชื่นชม จ.มหาสารคาม มีการจัดงานศพขึ้น ซึ่งตนได้ไปช่วยงานเพื่อน โดยการนำเด็กจิตอาสาไปรำหน้าไฟ เป็นเด็กหญิง 2 คน และเด็กสาวประเภทสอง 1 คน ระหว่างนั้นมีการเปิดเพลงผิด ทางพิธีกรที่ทางเจ้าภาพเชิญมา จึงได้ขึ้นพูดคั่นรายการ ก่อนจะพูดในทำนองว่า มีผู้รู้ระบุว่า การรำหน้าไฟต้องใช้สาวพรหมจรรย์มารำเท่านั้น เพื่อเปิดทางขึ้นสวรรค์ ห้ามกะเทยรำเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ทำให้เด็กๆ เสียใจ และเกิดความเป็นกังวล แต่ก็ได้รำจนจบ
...
จากนั้นเด็กๆ ก็มาถามครู ทางครูเองจึงอธิบายว่า การขึ้นสวรรค์ ขึ้นอยู่กับเวรกรรมที่ผู้ตายทำไว้ ไม่เกี่ยวกับการรำของเด็ก
ขณะที่ เจ้าอาวาสวัดจันทราวาส ตอบเพียงสั้นๆ ว่า ทางเจ้าภาพจัดขึ้นมาเอง ในเรื่องของการรำหน้าไฟนั้น ไม่มีความเชื่อแบบที่ทางพิธีกรพูดหรอก
ด้าน นายไพบูลย์ ละเลิง ผู้ใหญ่บ้านหนองกุง กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรในเรื่องนี้ เพราะส่วนใหญ่ถ้ามีงานศพ ก็มีการนำนักเรียนที่เป็นจิตอาสามารำให้เป็นประจำอยู่แล้ว และเด็กที่เป็นสาวประเภทสองก็มารำในงานศพบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ทราบว่า ทำไมอาจารย์ที่มาเป็นพิธีกรจึงได้พูดออกมาแบบนั้น.