เดือดร้อนหนัก หนุ่มขอความช่วยเหลือ หลังเพื่อนบ้านต่อเติมบ้านสร้างกรงนก เลี้ยงนกพิราบกว่า 30 ตัว ขนนกปลิวว่อน อดทนสูดกลิ่นนาน 2 ปี แจ้งแล้วแต่ไม่เป็นผล
วันที่ 3 พ.ค.62 สมาชิกพันทิปหมายเลข 4922460 ตั้งกระทู้ขอความช่วยเหลือว่า "เมื่อเพื่อนบ้าน ทำบ้านกลางสุขุมวิทเป็นรังนกพิราบ" โดยเล่าว่า บ้านของตนเป็นบ้านทาวน์เฮาส์อยู่ในซอยสุขุมวิท 101/1 อาศัยอยู่กับพ่อแม่พี่น้องนานนับ 24 ปี จนกระทั่งปี 2559 ข้างบ้านติดกันได้เปลี่ยนเจ้าของบ้านใหม่ และได้มาแจ้งกับตนด้วยวาจาว่า อาจมีเสียงรบกวนจากการรีโนเวต ซึ่งทางตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร หากเป็นการทำเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไป
เร่ิมรีโนเวตตั้งแต่ต้นปี 2560 ใช้เวลาร่วมปีกว่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งตนทราบมาจากผู้รับเหมาว่า ข้างบ้านได้ต่อเติมชั้นดาดฟ้า ซึ่งเดิมทีมี 4 ชั้น ขึ้นไปอีกชั้นเพื่อสร้างกรงนก ตนจึงแจ้งไปว่าขอให้สร้างกรงแบบปิด เพราะเกรงว่าผู้สูงอายุและหลานๆ จะได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อของสัตว์เหล่านี้ ตามที่ทราบคือเชื้อเหล่านี้ก่อให้เกิดโรคต่างๆ จากการติดเชื้อทางตรงและทางอ้อมมากมาย แต่ปรากฏว่า เจ้าของบ้านได้นำแผ่นไม้มาปิดแค่ฝั่งเดียวคือฝั่งที่ติดกับบ้านของตนเท่านั้น ในขณะที่อีก 3 ด้านที่เหลือเป็นกรงเปิดโล่ง (บ้านเขาเป็นห้องหัวมุม)
"ต่อมาเจ้าของบ้านได้นำนกมาไว้ในกรงตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 นับแต่นั้นความทุกข์ของบ้านผมก็เริ่มขึ้น โดยทุกวันจะมีขนนกปลิวเข้ามากองที่บ้านผมและติดตามเสื้อที่ตากไว้เป็นจำนวนมาก ผ่านไปหลายเดือนก็ยิ่งมากขึ้น ตัวผมก็แพ้พวกขนนก ช่วงเช้าตื่นนอนก็มักจะรู้สึกคัดจมูก และเมื่อผมมองลอดเข้าไปในบ้านเพื่อนบ้าน ก็พบนกพิราบหลายสิบตัว
...
และกรงที่เขาต่อเติมไว้ ด้านในยังมีการซอยเป็นกรงเล็กๆ อีกด้วย นอกจากนี้บริเวณสวนข้างบ้านของเพื่อนบ้าน ยังมีกรงนกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ บางวันก็จะพบเศษเนื้อ และซากนกที่ตายมาทิ้งในถังขยะของที่บ้านผมอีก"
ช่วงแรกก็พยายามทน แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหว จึงไปแจ้งกับเจ้าของบ้านว่ามีขนนกปลิวเข้ามาในบ้าน แต่อีกฝ่ายบอกว่า ไม่ใช่ขนนกจากนกของเขา และยังกล่าวทิ้งท้ายว่าให้ไปฟ้องเขตได้เลย ตนจึงได้นำเรื่องแจ้งกับ 1555 สายด่วน กทม. มีการประสานให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ โดยพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการเลี้ยงนกจริงที่บริเวณชั้นบนของบ้าน จำนวน 14 ตัว และชั้นล่างของบ้านอีก 28 ตัว โดยเขตแจ้งว่าอยู่ในระหว่างออกคำสั่งเพื่อให้เจ้าของบ้านปรับปรุงแก้ไข
อย่างไรก็ดี จนถึงเดือนพฤษภาคม 2562 เป็นเวลาร่วม 5 เดือนแล้ว ก็ยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าวจากเขต โดยทุกครั้งที่ทวงถามเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องจะอ้างว่าอยู่ในระหว่างดำเนินการทุกครั้งเป็นเวลาเกือบครึ่งปีแล้ว และเมื่อไปแจ้งกับกรรมการหมู่บ้านก็ไล่ให้ไปฟ้องเขต ในขณะที่พ่อและแม่ของตนอายุเกือบ 70 ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านนี้ตลอด ต้องหายใจเอาเชื้อโรคที่มาจากนกเหล่านี้ รวมถึงขนนกที่ติดมากับเสื้อที่ตากไว้ทุกวันเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว.
(ภาพและข้อมูลจาก สมาชิกพันทิปหมายเลข 4922460)