ชายคิดว่าตัวเองสะดือจุ่น ทิ้งไว้นาน 5 ปีไม่พบแพทย์ สังเกตสะดือโตมาก มีอาการปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน หมอตรวจพบเป็นไส้เลื่อน ลำไส้อุดตัน สุดท้ายต้องผ่าตัดเอาลำไส้ตายทิ้ง...
วันที่ 16 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช โพสต์เตือนกรณีคนไข้คิดว่าตัวเองสะดือจุ่น สุดท้ายพบเป็นลำไส้อุดตัน โดยเล่าว่า ชายไทยอายุ 66 ปี 4 เดือน เมื่อ 5 ปีก่อน สังเกตว่าสะดือโป่งพองเวลาผ่านไปโตมากขึ้น แต่เวลานอนราบยุบตัวลง ไม่คิดว่าเป็นอะไรมาก
เชื่อว่าเป็นเรื่องดี เพราะปกติสะดือจุ่นมักเป็นในเด็ก จึงไม่คิดว่าต้องพบแพทย์แต่อย่างใด กลัวไปพบแพทย์แล้วต้องผ่าตัดสะดือหาย 2 วันก่อนมาโรงพยาบาล สะดือโตมาก ปวดท้อง ท้องอืด ไม่ถ่าย อาเจียน กินไม่ได้ อ่อนเพลียมาก เข้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งส่งต่อมาโรงพยาบาลสิชล สงสัยไส้เลื่อนลำไส้อุดตัน รายงานศัลยแพทย์เตรียมผ่าตัดฉุกเฉินทันที
เวลา 10.30 น. มาถึงห้องฉุกเฉิน คนไข้ดูแห้งๆ ขาดน้ำ สะดือโป่ง ท้องอืดมาก กระวนกระวาย รีบส่งตรวจเตรียมพร้อมผ่าตัด ตรวจเลือด หัวใจ เตรียมเลือด แก้ขาดน้ำเกลือแร่ไม่สมดุล
เวลา 12.40 น. ส่งเข้าห้องผ่าตัด ใช้เวลาเตรียม 2 ชั่วโมงเศษ ต้องงดอาหารอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
เวลา 12.50 น. ดมยาสลบ ลงมืดผ่าตัด
เวลา 14.10 น. ผ่าตัดเสร็จ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที
แม้ว่าจะใช้เวลาเตรียมผ่าตัดเร็วมากๆ แล้ว เมื่อเปิดช่องท้องเข้าไปพบว่าลำไส้ที่อุดค้างเริ่มดำคล้ำขาดเลือด หากทิ้งไว้จะเน่าในท้อง อันตรายถึงชีวิต จึงต้องตัดลำไส้ที่ตายทิ้ง ต่อลำไส้ใหม่ เย็บซ่อมปิดรูรั่วที่สะดือให้แข็งแรง การผ่าตัดจึงต้องใช้เวลานานขึ้น มีความเสี่ยงมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงขึ้นตามไปด้วย หากผ่าตัดตอนยังไม่อุดตันใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที ใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ฝากเตือนกันไว้ครับ ไส้เลื่อนหน้าท้องทุกประเภทรีบปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลใกล้บ้าน.
...
(ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat)