รัฐอัดฉีดจัดซื้อจัดจ้างตรงเป้า

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยกรณีประกาศ วท. “กำหนดหน่วยงานอื่นของรัฐที่อยู่ในกำกับของฝ่ายบริหาร” กำหนดให้หน่วยงาน 46 แห่ง เป็นหน่วยงานอื่นของรัฐที่อยู่ในกำกับของฝ่ายบริหาร ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนานวัตกรรมตามความต้องการของภาครัฐ พ.ศ. 2562 ว่า ประกาศดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานที่มีชื่อในประกาศฉบับนี้ จัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างและพัฒนานวัตกรรมตามความต้องการของหน่วยงาน เพื่อตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาความท้าทายของประเทศ ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐเป็นพิเศษ และเมื่อสร้างนวัตกรรมได้แล้วสามารถนำมาขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เป็นเจ้าของโจทย์หรือที่ต้องการใช้งานจัดซื้อจัดจ้างนวัตกรรมอย่างน้อยร้อยละ 30 เรื่องดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับต้นสังกัด โดยทุกหน่วยงานยังคงสังกัดหน่วยงานเดิม ส่วนมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้รับผลกระทบ ยังเข้าสู่โครงสร้างกระทรวงการอุดมศึกษาฯตามแผนที่ได้วางไว้ แต่หน่วยงานจะได้รับประโยชน์จากงบประมาณในการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้น

ปลัด วท.กล่าวต่อว่า การพัฒนานวัตกรรมตามความต้องการของภาครัฐ คือแนวทางใหม่ในการแก้ปัญหาที่เป็นความท้าทายของหน่วยงานภาครัฐ แบ่งการดำเนินการเป็น 3 ระยะ คือ ช่วงการศึกษาแนวคิดและความเป็นไปได้ ช่วงการพัฒนาต้นแบบ และช่วงการผลิตต้นแบบจำนวนหนึ่งเพื่อทดลองใช้งานและทดสอบคุณภาพ โดยการดำเนินการนี้จะเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน เริ่มตั้งแต่การส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐริเริ่มโครงการนวัตกรรม ช่วยสร้างวัฒนธรรมในการใช้การวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน ลดการนำเข้าและพึ่งพิงเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยยกระดับผู้ประกอบการไทยให้มีขีดความสามารถในการพัฒนานวัตกรรม โดยผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยและสถาบันอุดมศึกษา สามารถลดขั้นตอนและระยะเวลาในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ทำให้งบประมาณของรัฐเกิดความคุ้มค่า และเมื่อนวัตกรรมสามารถขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยได้ ภาครัฐสามารถใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างได้อย่างตรงตามความต้องการ เกิดการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีไปสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง และยังช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนาของประเทศให้สูงขึ้น.

...