เพจดังแฉพฤติกรรมครูโรงเรียนดัง ยักยอกเงินออมทรัพย์เด็กอนุบาลเข้ากระเป๋า มูลค่าร่วม 2 ล้านบาท ด้านนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพังงา เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป...
จากกรณีแฟนเพจ พังงา น่าอยู่ โพสต์ข้อความอ้างว่า ครูอนุบาลโรงเรียนชื่อดัง ยักยอกเงินฝากเด็กอนุบาลร่วม 2 ล้านบาท อมเงินธนาคารโรงเรียนของเด็กอนุบาลชั้น 1, 2 และ 3 ความจริงปรากฏเมื่อนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ต้องไปศึกษาต่อ มี 1 ห้องที่ไม่ได้เงินคืน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครองอย่างมากนั้น
วันที่ 5 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิศรพงษ์ อิศรพันธุ์ ผอ.ปปช.จังหวัดพังงา ได้เข้าสอบถามเจ้าหน้าที่โรงเรียนอนุบาลดังกล่าว พร้อมกับขอเข้าพบครูเวร ซึ่งปฏิเสธไม่ทราบเรื่องใดๆ ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนและฝ่ายบริหารโรงเรียนไม่อยู่ติดภารกิจราชการ
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางกลับ พร้อมจะเข้าตรวจสอบรายละเอียดตามที่ปรากฏในเฟซบุ๊กดังกล่าวอีกครั้งต่อฝ่ายบริหารของโรงเรียนเพื่อต้องการข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำผิดตามที่สื่อออนไลน์กล่าวถึงหรือไม่
ขณะที่ นายชูโชติ โกยกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพังงา ได้ทำหนังสือตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมยอมรับว่ามีผู้ปกครองจำนวนหลายรายโทรติดต่อสอบถามถึงเงินออมทรัพย์ของเด็กนักเรียนอนุบาล ทำให้ตนเองถึงกับงง เนื่องจากไม่ทราบว่ามีกิจกรรมหรือโครงการออมทรัพย์ดังกล่าว เมื่อทราบเรื่องจึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ ครู ของโรงเรียนอนุบาลดังกล่าว เข้าชี้แจงในเบื้องต้น
โดยได้ทราบว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และเริ่มมาตั้งแต่ ปี 2558 ขณะที่ทางเทศบาลไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากทางเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนทำโครงการ ออมทรัพย์ ออมความดี โดยให้ผู้ปกครองฝากเงินแล้วแต่กำลังให้ครูประจำชั้นของแต่ละชั้นเรียน ซึ่งภายในโรงเรียนได้ดำเนินการทุกห้องมีเพียงห้องเรียนเดียวที่ไม่เข้าร่วมโครงการ ดำเนินการมาตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 58 จนปัจจุบัน
...
ทางนักเรียนชั้นอนุบาล 3 เสร็จสิ้นการศึกษานักเรียนต้องเลื่อนชั้นขึ้นเรียนต่อระดับประถมศึกษาในสถาบันการศึกษาที่อื่น ขณะที่ทางครูเจ้าของโครงการไม่สามารถเบิกจ่ายถอนเงินให้นักเรียนชั้น อนุบาล 3 ได้ครบตามจำนวนที่ฝากจึงมีการร้องเรียนผ่าน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพังงาในครั้งนี้
นายชูโชติ กล่าวต่อว่า ตนเองเพิ่งทราบหลังจากมีผู้ปกครองแจ้งว่าไม่ได้รับเงินออมทรัพย์ จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น พบว่ามีครูท่านหนึ่งยอมรับว่า เป็นผู้รับเงินจากครูประจำชั้นของเด็กนักเรียนอนุบาลในยอดที่รับฝากเงินตามโครงการออมทรัพย์ แต่ส่วนหนึ่งไม่ได้นำไปฝากให้เด็กนักเรียนทั้งหมดตามที่ครูประจำชั้นให้มา ซึ่งรวมเป็นเงินจำนวนมาก ล่าสุดทราบว่าเคลียร์เงินให้เด็กนักเรียนไปแล้วจำนวน 1 ล้านบาท เหลืออีกประมาณ 5-6 แสนบาท เรื่องนี้ตนเองได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบวินัยของทางราชการต่อไป.
