ผัวน้ำตาไหลพราก เผลอหลับไปแค่ 1 ชม. เมียผูกคอตายในห้องน้ำ หลังทะเลาะหนักเผาที่นอน หมอน มุ้ง คิดว่าผัวปันใจให้ผู้หญิงอื่น

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.62 พ.ต.ท.กิตติพิชญ์ ภูตะโชติ สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า มีคนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านแห่งหนึ่งใน ต.หนองนาคำ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมสถาน ไปตรวจสอบ

ทั้งนี้ พบศพนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ใช้เชือกผ้าสำหรับมัดของ สีครีม ผูกคอโยงกับขื่อห้องน้ำหลังบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้นสีเหลือง พบรองเท้า 1 คู่วางอยู่ที่พื้นห้องน้ำ เสียชีวิตจากการผูกคอมาประมาณ 1-2 ชั่วโมง

นายไก่ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี สามีผู้ตายให้การว่า อยู่กินกับผู้ตายมา 1 ปีเศษ หลังจากผู้ตายอย่าร้างกับสามีเก่า โดยภรรยาตนมีลูกติด 2 คน แต่ไปอาศัยอยู่กับพ่อตาและแม่ยาย ส่วนตนและภรรยาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ตนมีอาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน ส่วนภรรยาขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด

ก่อนเกิดเหตุตนและภรรยาได้พากันไปกินเที่ยวที่ ร้านอาหารมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี กลับมาถึงบ้าน เวลา 03.00 น. ภรรยาเกิดความหึงหวง และกลัวตนปันใจให้หญิงอื่นทุกครั้งที่เมาเหล้า จะชอบพูดเรื่องเก่าที่เคยทะเลาะกันเป็นประจำ

...

อย่างไรก็ตาม ภรรยาชอบคิดว่าตนและหญิงสาวที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันนั้นชอบกัน แต่จริงๆ แล้วผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นญาติกับตน ซึ่งภรรยา และตนก็มีปากเสียงกันเรื่อยมา แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้ ถึงขั้นเผาที่นอนหมอนมุ้ง และทำร้ายร่างกายตนโดยใช้เล็บข่วน ตามร่างกายของตนหลายแห่ง ขณะเข้าไปห้ามและนำน้ำมาดับไฟที่ภรรยาจะพยายามเผาที่นอน

หากตนไม่ทำเช่นนั้นป่านนี้บ้านคงไหม้วอดไปแล้ว และไม่คิดว่าภรรยาตนจะผู้คอตาย รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนเผลอหลับไปแค่ 1 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาร้องเรียกหาภรรยาก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินมาดูในห้องน้ำหลังบ้านพบว่าผูกคอเสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งพี่ชายภรรยาที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

พ.ต.ท.กิตติพิชญ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพศพร่วมกับแพทย์ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตจากการผูกคอ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งทางญาติอยากให้แพทย์นำศพไปชันสูตรให้ละเอียดอีกครั้งที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หากญาติติดใจในสาเหตุ และหลังจากนั้นจะได้มอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.