ลูกสาวเปิดใจ ขับเกียร์ออโต้ไม่ชิน ถอยหลังชนแม่บาดเจ็บหน้าธนาคาร รับเคยถูกหวย 12 ล้าน ปัจจุบันก็ถูกมาเรื่อยๆ 2 ตัวบ้าง 3 ตัวบ้าง แม่เผย ถูกหวยก็ทำบุญตลอด แต่ถ้าได้โชคใหญ่แล้วเจ็บไม่เอาดีกว่า

จากกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลในโลกออนไลน์ว่า มีสาวถูกหวยรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ รับเงิน 12 ล้าน ได้พาแม่ไปธนาคาร แต่เกิดเหตุถอยหลังรถชนแม่ต้องนอนโรงพยาบาลที่จังหวัดแพร่

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 62 ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจาก นางวรัญญา เป็นสุข อายุ 52 ปี ว่า วันเกิดเหตุตนได้พาแม่ไปธนาคาร แต่ตนขับรถสวนเลนไปหน้าธนาคาร และจะกลับหัวรถเพื่อจอดชิดขอบฟุตปาท โดยตนก็ให้แม่ลงจากรถเพื่อไปดูท้าย

ขณะที่กำลังจะเดินหน้ารถ แต่ตำแหน่งเกียร์ยังอยู่ที่เกียร์ถอยหลังพอปล่อยเบรก ก็เลยถอยชนแม่ที่ยืนอยู่ด้านท้ายรถ ต่อจากนั้นตนรู้สึกจึงรีบเบรก และลงมาดูแม่พบว่า แม่นอนได้รับบาดเจ็บอยู่ จึงเรียกรถโรงพยาบาลมารับ ตนยอมรับว่า ตนขับเกียร์ออโต้ขับไม่ถนัด

นางวรัญญา กล่าวอีกว่า เรื่องที่ถูกกหวยรางวัลที่ 1 นั้นยอมรับว่า จริง แต่ไม่ใช่ถูกงวดนี้ตนถูกงวดวันที่ 1 ธ.ค. 61 ตอนนั้นยังเป็นพนักงานขายตั๋วรถอยู่ที่ สถานีขนส่ง ซึ่งก่อนจะกลับบ้านก็แวะซื้อสลากกินแบ่งมา 2ใบ จนกระทั่งหวยออกก็รู้ว่าถูกที่ 1

...

ส่วนเงินที่ได้จากการถูกหวย ก็ให้แม่ตระเวนทำบุญมาตลอด ก็ยังไม่ได้วางแผนอะไร มีแต่ปรึกษากับสามีว่า จะสร้างบ้านใหม่ เพราะบ้านเดิมอยู่กันหลายคน จึงตกลงจะสร้างและกำลังเริ่มสร้าง ส่วนเงินอีกส่วนก็นำไปซื้อที่ดินไว้หมดแล้ว และเอาฝากธนาคาร เป็นชื่อแม่ และเป็นชื่อของลูกชาย 

"หลังจากที่เคยถูกรางวัลที่ 1 มา ครอบครัวก็พากันถูกหวยเกือบทุกกงวด ทั้ง 2 ตัว 3 ตัว หลังจากซื้อรถคันนี้ที่ทะเบียนป้ายแดง ก-1352 ตนก็ถูกเลขท้ายอีก 2 ตัว ในงวดที่ผ่านมาด้วย"

ทางด้าน นางสีมา สิงหกุล อายุ 75 ปี แม่ของนางวรัญญา กล่าวว่า วันนั้นตนไปธนาคารกับลูก เพื่อที่จะไปปรับสมุดธนาคาร แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นธนาคารเลย ลูกสาวกำลังจะจอดรถ และก็ได้ถอยหลังมาชน อย่างไรก็ตาม หลังจากลูกสาวถูกหวยแล้วก็ได้ทำบุญมาตลอด เข้าวัดเข้าวา เพราะลูกสาวไม่ให้ทำอะไร

"ฉันก็คิดในใจว่า หากได้โชคลาภแล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บป่วยไข้ ขอไม่เอาโชคดีกว่าเพราะอยู่มาก็สบายดี ครอบครัวไม่เคยมีปัญหา มีความสุขกันดี ลูกเขยก็ทำงานก่อสร้าง ลูกสาวก็ทำงานที่ขนส่ง มีอาชีพกันทุกคน แต่เหตุจะเกิดมันก็ห้ามไม่ได้ ขอให้อย่าประมาทก็แล้วกัน"