แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย “ชัชชาติ” ลงพื้นที่ภาคเหนือเผชิญปัญหาฝุ่นและหมอกควัน เชิญชวนประชาชนช่วยกันทำเครื่องกรองอากาศอย่างง่าย และบริจาคสิ่งของจำเป็นช่วยชาวเหนือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม โพสต์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กถึงการแก้ปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าของฝุ่นที่เชียงใหม่และภาคเหนือในขณะนี้ ว่า
1.การจัดหาหน้ากากและเครื่องกรองอากาศให้กับประชาชนโดยด่วน 2.การห้ามการเผาอย่างเข้มงวด 3.การแจ้งเหตุไฟ การดับไฟป่าและไฟทุ่งอย่างรวดเร็ว 4.การเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องการเผาไร่
ทั้งนี้ นายชัชชาติ ยังโพสต์ด้วยว่า รัฐต้องจัดหาหน้ากากที่มีคุณภาพให้กับคนที่ต้องการทุกคน รวมทั้งให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน (Real Time) กับประชาชน เครื่องกรองอากาศปัจจุบันราคาแพงมาก มีการสอนวิธีการทำโดยใช้พัดลมดูดอากาศกับแผ่นกรองอากาศง่ายๆ ราคาไม่แพง หลายรูปแบบ จึงลองทำดูโดยใช้พัดลมดูดอากาศขนาด 10” กับ แผ่นกรองอากาศ 3M Filtrete ทำได้ง่ายๆ ใช้งบประมาณพันกว่าบาท แต่ปัญหาคือแผ่นกรองอากาศในพื้นที่ขาดแคลนมาก ถ้าพวกเราที่พอมีกำลังจะช่วยตรงนี้ได้น่าจะเป็นประโยชน์ อาจจะช่วยกันทำเครื่องกรองอากาศง่ายๆ ส่งให้พี่น้องเราที่ภาคเหนือก็ได้
ส่วนการดับไฟป่า อาสาสมัครดับไฟป่ามีจำนวนน้อย ขาดอุปกรณ์รวมทั้งงบประมาณ ถ้าเราช่วยกันตรงนี้ก็จะช่วยให้การดับเพลิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างที่เจอเมื่อได้ขึ้นไปที่เชียงดาว คนในพื้นที่ยังต้องการความช่วยเหลืออีกเยอะเลย เพราะพื้นที่เชียงดาวนั้นไหม้ไปแล้วกว่า 70% ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับไฟมีแค่ 200 กว่าคนเท่านั้น คนในพื้นที่จึงขอระดมทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ในการดับไฟ เช่น เครื่องเป่าควัน แว่นกันควัน เตาแมกนีโต เปลมุ้ง Firesheet อุปกรณ์เดินป่า ข้าวสาร เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำยาล้างจาน เครื่องอุปโภคและบริโภคแบบสำเร็จรูป เช่น อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง เป็นต้น พวกเราอาจร่วมบริจาคได้ที่ภาคีเครือข่ายเรารักดอยหลวงเชียงดาว
...
จากภาพถ่ายดาวเทียมเห็นชัดเจนว่า Hot Spot จำนวนมากอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ใกล้ชายแดนไทย กระทรวงการต่างประเทศต้องมีมาตรการเชิงรุกในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน และมีมาตรการเหมือนที่สิงคโปร์เคยทำสำเร็จมาแล้วกรณีควันที่เกิดจากการเผาไร่ปาล์มในอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ปัญหาหมอกควันไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นปัญหาที่กระทบชีวิตของพวกเราเป็นอย่างมาก ถ้าเราช่วยกันคนละไม้คนละมือร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน สถานการณ์น่าจะดีขึ้นได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 เม.ย. 2562 จากการรายงานคุณภาพอากาศผ่านทางเว็บไซต์ airvisual พบว่า จ.เชียงใหม่ ยังคงมีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับ 1 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศ (US AQI) อยู่ที่ 255 ส่วนฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) อยู่ที่ 205.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพ.
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์)