ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกร้านดังเชียงคาน พบสาวลาวนับ 10 คน หวั่นมีการค้าประเวณี ดีเอสไอรับทำคดีต่อ คาดเจ้าหน้าที่รัฐอาจรู้เห็น และมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการค้ากามข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.62 นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม และฝ่ายปกครองจังหวัดเลย ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้รับร้องเรียนให้เข้าตรวจสอบสถานประกอบการ ชื่อร้าน อย่าอิจฉา ตั้งอยู่ที่ 401/2 หมู่ที่ 6 ต.เชียงคาน

จากการตรวจสอบพบว่า มีการนำหญิงสัญชาติลาว จำนวน 10 คน มาค้าประเวณี โดยมีการสร้างโรงแรม ชื่อ ขวัญเรือนรีสอร์ท ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน เพื่อรองรับการค้าประเวณีด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้นำพนักงานหญิงทั้ง 10 คน ไปทำการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ และหากพบว่าเข้าข่ายเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ก็จะแจ้งข้อหากับเจ้าของสถานประกอบการเพิ่มเติม รวมทั้งให้ความคุ้มครองและฟื้นฟูผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป

...

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบว่า ขบวนการนำพาหญิงชาวลาวเข้ามาค้าประเวณีในประเทศไทย และยังน่าเชื่อว่า เจ้าหน้าที่รัฐ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวด้วย ซึ่งหากเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์หรือเข้าข่ายเป็นองค์กรอาชญากรข้ามชาติ

โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษเพื่อสอบสวนขยายผลต่อไป และแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าของกิจการเป็นธุระจัดหาหญิงมาเพื่อค้าประเวณี ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน

ขณะที่ นายชัชพงษ์ อาจแก้ว นายอำเภอเชียงคาน เปิดเผยว่า ทางอำเภอเชียงคาน ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ออกตรวจสอบป้องกันร้านค้าคาราโอเกะที่แอบแฝงขายบริการตลอดทุกสัปดาห์ แต่ก็มีเล็ดลอดสายตาไป จนมี ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง มาตรวจค้นและจับกุมในครั้งนี้ และมีการรายงานไปยังนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯ จังหวัดเลยให้ทราบแล้ว