เกิดเหตุคนร้ายถีบมอเตอร์ไซค์ยายหลาน ก่อนถือปืนขู่ กระชากสร้อยกลางวันแสกๆ หลานไม่ยอมเจอจับหัวโขกพื้นเจ็บ ถือปืนขู่คนจะช่วย อ้างอย่ายุ่งเรื่องผัวเมีย ...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มี.ค. 62 พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี สว.สส. สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมชุดสืบสวน ได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนร้ายชิงทรัพย์ 2 ยายหลาน บนถนนอนุกูล สายบ้านทุ่งแฝก-เทศบาลกบินทร์ หน้าสวน 72 พรรษา เขตเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

พบผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่บริเวณใบหน้าและตามลำตัวหลายแห่ง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทราบชื่อคือ นางสมพิศ เดโชเจริญวุฒิ อายุ 72 ปี และ น.ส.ชริตรา เดโชเจริญวุฒิ อายุ 30 ปี โดยพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดงดำ ทะเบียน กวค 388 ปราจีนบุรี ของผู้เสียหายล้มตะแคงอยู่ โดยในที่เกิดเหตุพบโทรศัพท์มือถือ คาดเป็นของคนร้ายทำตกไว้ 1 เครื่อง ซึ่งระหว่างที่เกิดเหตุนั้น พบว่าเป็นช่วงที่มีประชาชนขี่รถผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีตลาดนัด แต่ไม่มีใครกล้าช่วยเหลือ เนื่องจากในมือคนร้ายมีอาวุธปืนอยู่ หลังจากที่คนร้ายได้ทรัพย์สินไป จึงขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางบ้านทุ่งแฝก 

สอบถามเบื้องต้นทราบว่า สองยายหลานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ กลับจากไปทำธุระ และกำลังเดินทางกลับบ้านที่ตลาดกบินทร์ ขณะที่ขับรถมาตามถนนสายดังกล่าว ได้มีคนร้าย 1 คน รูปร่างผอมสูง ประมาณ 165-170 ซม. ผิวดำ ตัดผมเกรียน ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนตามหลังมา พอมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายจนล้มลง ก่อนจะลงมือกระชากสร้อยข้อมือของ นางสมพิศ หนัก 2 สลึง และสร้อยคอทองคำของ น.ส.ชริตรา ที่ใส่อยู่ในคอหนัก 1 บาท แต่ น.ส.ชริตรา ได้ต่อสู้กับคนร้ายๆ จึงถูกคนร้ายจับศีรษะกระแทกลงกับพื้นถนนจนได้รับบาดเจ็บ

...

ในช่วงเกิดเหตุปรากฏว่ามี นายนพพร น้อยสุภาพ อายุ 48 ปี ได้ขับรถยนต์ผ่านมาพอดี ทำให้กล้องหน้ารถ สามารถจับภาพคนร้ายขณะลงมือกระสร้อยสองยายหลานไว้ได้ พร้อมกับกล่าวว่า ตนขับรถมาจากตลาดตลาดกบินทร์ เดิมทีคิดว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ เห็นคนร้ายกำลังทำร้ายผู้หญิง จับศีรษะกระแทกกับพื้นถนน นึกว่าเป็นสามีภรรยาทะเลาะกัน ในมือมีปืน จึงไม่กล้าจะลงไปช่วย เนื่องจากคนร้ายขู่ว่าอย่ามายุ่ง

ส่วนโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายได้ทำตกหล่นไว้ในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานในเครื่องมือถือเป็นรูปของคนร้ายว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน พร้อมรูปถ่าย และอาวุธปืน ที่โพสต์ไว้ในโทรศัพท์ ซึ่งผู้ที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ลงมือกระชากสร้อยสองยายหลาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะออกติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.